posttoday

วัคซีนโควิด-19 ทดลองในคนแล้ว 23 ตัว

16 กรกฎาคม 2563

หมอยง เผย ทั่วโลก แจ้ง องค์การอนามัยโลก วัคซีนโควิด-19 ทดลองในคนแล้ว 23 ตัว อยู่ระหว่างทดสอบระยะที่ 3 มี 2 ชนิด เป็นของจีน และของ Oxford ร่วมกับ AstraZeneca ขณะที่ ไทยมี 4 ชนิด

เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วัคซีน โควิด-19

วัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ที่แจ้งมาอยู่ในบัญชีขององค์การอนามัยโลก กลางเดือนกรกฎาคม

และอยู่ในการทดลองในมนุษย์แล้ว มีถึง 23 ตัว และอยู่ระหว่างการทดสอบระยะที่ 3 มี 2 ชนิด เป็นของจีน Sinovac และของ Oxford ร่วมกับ AstraZeneca

และที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็น การทดสอบระยะที่ 1 และระยะที่ 2 มีของจีน CanSino Biological/Beijing Biological Institue of Biotechnology และของอเมริกา Modera/NIAID ที่มีการเผยแพร่ในวารสารแล้ว

และยังมีหลายชนิดที่ทดลองในคน

ส่วนวัคซีนที่อยู่ระหว่างการทดลองในสัตว์ และแจ้งไปยังองค์การอนามัยโลก มีทั้งหมด 140 ชนิด

ใน 140 ชนิด มีของประเทศไทย อยู่ 4 ชนิด เป็นของจุฬาฯ 2 ชนิด ภาคเอกชน Bionet Asia 1 ชนิด และมหิดลร่วมกับองค์การเภสัช อีกหนึ่งชนิด

จะเห็นได้ว่า ทั่วโลก กำลังพยายามที่จะเอาชนะ โควิด-19

การศึกษาในระยะที่ 3 จะต้องใช้ประชากรกลุ่มใหญ่ และจะให้ได้ผลถึงประสิทธิภาพในการป้องกันโรค

จะต้องทำการศึกษาในประเทศที่เป็นแหล่งระบาดของโรคสูง

โดยแบ่งกลุ่มให้วัคซีน และให้ยาหลอกหรือวัคซีนที่ไม่ใช่โควิด แล้วติดตามการเกิดโรค

ด้วยเหตุนี้ประเทศที่ไม่มีการระบาดของโรค เช่นประเทศจีน ประเทศไทย จะมีอุปสรรคในการทดลองในประเทศ จำจะต้องไปทำการศึกษานอกประเทศที่มีการระบาดของโรค

และต่อมาถ้ามีวัคซีนตัวใดมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคแล้ว

วัคซีนตัวอื่นที่จะพัฒนาต่อไป ในการศึกษาระยะที่ 3 จะไม่สามารถแบ่งกลุ่มให้วัคซีนกับยาหลอกได้แล้ว

จะต้องใช้วัคซีนที่ผลิตขึ้นมา เปรียบเทียบกับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ

ถ้าไม่เช่นนั้นจะผิดจริยธรรม

ผลของวัคซีนที่ผลิตใหม่ จะต้องได้เท่าเทียมกับวัคซีนที่มีอยู่แล้ว หรือดีกว่า