posttoday

ศบค. แจง "แขกรัฐบาล-กลุ่มที่มีข้อตกลงพิเศษ" เข้าไทยไม่ต้องกักตัว

09 กรกฎาคม 2563

นพ.ทวีศิลป์ แจง 2 กลุ่มเข้าไทยไม่ต้องกักตัว 14 วัน "แขกรัฐบาล-กลุ่มที่มีข้อตกลงพิเศษ" รวมกรณี ผบ.ทบ.สหรัฐ เผย อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ ยังมั่นใจไม่ได้ 100 % ไทยปลอดโควิด พร้อม เร่งตามหา “ต่างด้าว” ลอบหนีเข้าไทย

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.นพ.ทวี ศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงการเดินทางมาในกรณีแขกของรัฐบาลและกลุ่มที่มีข้อตกลงพิเศษต้องไม่กักตัว 14 วัน ว่า เข้าใจในความห่วงใยของประชาชน แต่ขอเรียนว่า ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐอเมริกา และคณะผู้ติดตาม อยู่ในข้อกำหนดของการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 คือ 1. แขกของรัฐบาล และ 2. กลุ่มที่มีข้อตกลงพิเศษ เช่น นักธุรกิจ ที่เข้ามาระยะสั้น ที่มีความแตกต่างของระยะที่ 4 และ 5 คือ เดิมระยะที่ 4 ผู้เดินทางเข้ามาจะต้องอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ (State Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วัน แต่มีการผ่อนคลายขึ้นมาเนื่องจากมีความมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้ ทั้งนี้ที่มีข้อถามว่าจะต้องกักกันโรคของผู้ติดตามหรือไม่นั้น จะต้องเรียนว่าได้กำหนดผู้ติดตามคือ 1.กลุ่มผู้ติดตามคณะเล็กที่จัดหามาจากผู้ที่เชิญ 2.กลุ่มบุคลากรทางสาธารณสุขและความมั่นคง จะต้องประกอบทีมติดตามตลอด ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรเราเคยทำมาก่อน คนที่เดินทางมาทาง สนามบินก็ไม่ถูกกักตัวก็มี เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกักตัว แต่ต้องสังเกตอาการตัวเอง และแจ้งกับหน่วยงานต่าง ๆตลอด

เมื่อถามว่าถึงวันนี้ประเทศไทยปลอดเชื้อแล้ว 45 วันถือว่าสบายใจได้หรือไม่ และต้องระวังหรือไม่เพราะมีแรงงานต่างด้าว กว่า 3,000 คน หลบหนีเข้าเมืองมาผิดกฎหมาย นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ช่วงเช้าอธิบดีกรมควบคุมโรคได้มีการประชุมเรื่องนี้ยืนยันว่าเราจะมั่นใจได้แค่ไหน ซึ่งสรุปว่าไม่น่าจะมั่นใจได้ 100 % เพราะมีแรงงานต่างด้าว เข้าเมืองมาผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องช่วยกันจัดการ แต่ขณะเดียวกันในกลุ่มคนไทยกันเองก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่ามีเชื้อหรือไม่ก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าไม่มี ดังนั้นเราจะต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมจะให้ไปตรวจตามตามแนวชายขอบเป็น1,000 กิโลเมตรก็คงไม่ไหวไว้ จึงขอให้ตามชายแดนเพิ่มจุดตรวจให้เข้มข้นขึ้นมากขึ้น เป็นการป้องปรามได้ระดับหนึ่ง และขอให้ชุน หรือ อสม. ช่วยกันดูแล และเฝ้าระวังในพื้นที่ของตัวเอง ว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือไม่ เราต้องช่วยกัน ให้ตระหนักแต่ไม่ต้องตระหนก โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ร้านค้าขอให้ทำถูกกฎหมาย อย่าใช้แรงงานผิดกฎหมาย และที่สำคัญที่สุด ปราการที่ป้องกันโรคได้ดีที่สุด คือ การป้องกันส่วนบุคคล ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ขอให้ดูแลตัวเอง เพื่อให้ปลอดภัยปลอดเชื้อต่อไป