posttoday

จำคุก6ปี24เดือน 2อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัสระเกศฯร่วมทุจริตฟอกเงิน

19 พฤษภาคม 2563

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก 6 กระทง 6 ปี 24 เดือน ปรับ 1.68 แสน "พระเมธีสุทธิกร-เจ้าคุณเทอด" สองอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ร่วมฟอกเงินทุจริตงบ พศ. แต่ไม่เคยรับโทษอาญามาก่อน ให้รอลงอาญา 1 ปี

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 63 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อ่านคำพิพากษาคดีฟอกเงินทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หมายเลขดำ อท.205/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสังคม สังฆะพัฒน์ อายุ 49 ปี อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , นายเทอด วงศ์ชอุ่ม อายุ 49 ปี อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และนายทวิช สังข์อยู่ อายุ 45 ปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 ร่วมกันฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานฯ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินฯ

คดีนี้ อัยการ โจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 22 ส.ค.61 กรณีมีการทุจริตเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ในการจัดสรรเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา 10 ล้านบาทให้วัดสระเกศฯ จากงบประมาณปี 2557 ทั้งหมด 72 ล้านบาท ทั้งที่วัดสระเกศฯ ไม่มีโรงเรียนแผนกนี้ จึงไม่มีสิทธิได้รับงบนี้

โดยอดีตพระทั้ง 2 รูป ที่มีอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ร่วมกันลงชื่อเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดสระเกศฯ โดยมีนายทวิช จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับมอบอำนาจ เมื่อปี 2558 ไปใช้ในกิจการอื่น ทั้งที่เป็นงบประมาฯแผ่นสำหรับอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่ระหว่างพิจารณา อดีตพระมหาสังคมหรือสังคม ญาณวฑฒโน จำเลยที่ 1 และ อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด จำเลยที่ 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพิ่งได้ประกันตัววันที่ 15 ส.ค.62 หลังจากมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันตัว โดยอดีตพระทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท ซึ่งศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 1-2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล พร้อมกับให้มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 1 เดือนจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษาด้วย

ส่วน นายทวิช สังข์อยู่ ฆราวาส ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ผู้ผลิตสื่อให้วัดสระเกศฯ จำเลยที่ 3 ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา จึงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ดี ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายในชั้นไต่สวนแล้ว พิพากษาว่า อดีตพระมหาสังคมหรือสังคม ญาณวฑฒโน จำเลยที่ 1 และ อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด จำเลยที่ 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 53 , 60 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยจำเลยที่ 1-2 เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดฐานฟอกเงินต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของความผิด ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ มาตรา 10 วรรคหนึ่ง ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 1-2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

ให้จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 6 กระทงๆ ละ 2 ปีเป็นจำคุก 12 ปี และปรับ 6 กระทงๆ ละ 40,000 บาท รวมปรับเป็นเงิน 240,000 บาท

ขณะที่ทางนำสืบของจำเลยที่ 1-2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 รวม 6 กระทงๆ ละ 1 ปี 4 เดือน และปรับ 6 กระทงๆ ละ 28,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 1- 2 ทั้งสิ้นคนละ 6 ปี 24 เดือนและปรับคนละ 168,000 บาท โดยจำเลยที่ 1-2 เป็นพระภิกษุผู้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัย เมื่อไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 1 ปี

ส่วนที่ขอให้นับโทษจำคุก อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด จำเลยที่ 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ต่อจากคดีหมายเลขดํา อท.197/2561 ของศาลนี้นั้น เนื่องจากคดีที่ตัดสินวันนี้ (อท.205/2561) ศาลรอการลงโทษไว้ จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ ให้ยกคำร้องในส่วนนี้ และให้ยกฟ้อง นายทวิช สังข์อยู่ จำเลยที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ผลคำพิพากษายังเป็น คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นซึ่งอัยการโจทก์ ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ภายใน 1 เดือนตามขั้นตอนกฎหมาย

ขณะที่คดีฟอกเงิน ซึ่งมีการกล่าวหาพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในวัดพื้นที่ กทม.หลายแห่ง รวมทั้งต่างจังหวัด ที่สืบเนื่องจากการทุจริตจัดสรรเงินงบประมาณ พศ.ของกลุ่มนายพนม ศรศิลป์ อายุ 60 ปี อดีต ผอ.พศ. นั้น ก่อนหน้านี้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง ก็มีคำตัดสินคดีฟอกเงินฯ ไปแล้ว 2 สำนวน ประกอบด้วย

1. คดีหมายเลขดำ อท.38/2561 กล่าวหาฟอกเงินจากการที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 61 ปี อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนี) คดีทุจริตจัดสรรงบประมาณ จำนวน 28 ล้านบาท ให้วัด 12 แห่งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ , ตาก , นครสวรรค์ , ชุมพร โดยมิชอบ ที่ลงโทษจำคุก “นายสมเกียรติ ขันทอง” อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค อายุ 56 ปี รวม 13 กระทง เป็นเวลา 26 ปี (ตัดสินวันที่ 18 เม.ย.62 คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ จำเลยไม่ได้ประกันตัว)

2.คดีหมายเลขดำ อท.196/2561 กล่าวหาฟอกเงินจำนวน 5 ล้านบาท ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ โดยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา นำงบที่ได้มานั้นไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน ทั้งที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินนั้นมาตั้งแต่แรก ที่ลงโทษ 2 กระทง “นายเอื้อน กลิ่นสาลี” อายุ 75 ปี อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา , กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) , เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 1 จำคุก 6 ปี และ “นายสมทรง อรรถกฤษณ์” อายุ 53 ปี อดีตพระอรรถกิจโสภณและเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ จำเลยที่ 2 จำคุก 3 ปี (ตัดสินวันที่ 16 พ.ค.62 คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท)