ดีเอสไอรวบแม่ทีมบ.อีเกิ้ลเกตส์ฯลวงเหยื่อลงทุนเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
ดีเอสไอรวบแม่ทีมบ.อีเกิ้ลเกตส์ฯ ชี้พฤติการณ์อาชญากรรมข้ามชาติ ลวงเหยื่อลงทุนเสียหายกว่า 200 ล้านบาท แกะรอยพบต่างชาติร่วมขบวนการ 6ราย เล็งดำเนินคดีฟอกเงินอีกข้อหา
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สามารถจับกุม น.ส.หนึ่งน้ำเพชร รัตนพงศ์จีระ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1712/2562 โดยน.ส.หนึ่งน้ำเพชรมีพฤติการณ์เป็นแม่ทีมที่ชักชวนผู้เสียหายจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้ร่วมลงทุนกับบริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป จำกัด อ้างว่าเป็นบริษัทซื้อขายดัชนีหุ้นมาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งบริษัทมาแล้วกว่า 10 ปี โดยพฤติการณ์ของขบวนการนี้มีการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ กลุ่มหนึ่งจัดบรรยายชักชวนผู้เสียหายในประเทศไทยให้หลงเชื่อร่วมลงทุนกับบริษัท และอีกกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่ในการยักย้ายถ่ายโอนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากผู้เสียหาย ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 250 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 235 ล้านบาท
นพ.ไตรยฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับคดีดังกล่าวดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 103/2560 โดยก่อนหน้านี้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีส่งฟ้องศาลได้ทั้งสิ้น 21 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวไทย 19 ราย และชาวต่างชาติ 2 ราย (ผู้ต้องหาชาวอเมริกัน 1 ราย และผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 1 ราย) โดยศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาว่า กลุ่มจำเลยมีความผิดตามพ.ร.บป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ พ.ร.ก การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุกจำเลย คนละ 10 ปี ทางนำสืบจำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 ที่ 5 และที่ 6 คนละ 1,000,000 บาท และให้จำเลยร่วมกันคืนต้นเงินให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เหลือ ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน 1 ราย ชาวเนเธอร์แลนด์ 3 ราย และชาวสิงคโปร์ 3 ราย อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างชาติติดตามเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ ดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานฟอกเงินด้วย ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอฝากเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังการชักชวนให้ลงทุนที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ แม้ว่าจะมีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยวิธีต่างๆ หรือการโฆษณาชวนเชื่อว่า มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ ขออย่าได้ไว้วางใจโดยเฉพาะหากมีพฤติการณ์ในการชักชวนลงทุนดังกล่าว