posttoday

สธ.ย้ำมาตรการควบคุมโรคเข้มข้นทุกด่าน รับคนไทยกลับประเทศ

19 เมษายน 2563

สธ.เผยประเทศไทยมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นทุกด่าน เพื่อรับคนไทยกลับเข้าประเทศแต่ละจังหวัดพร้อมดูแลคนไทยที่จะกักตัว (Quarantine) ในสถานที่ที่รัฐกำหนด

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่จะอนุญาตให้คนไทยกลับเข้ามาผ่านจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดน นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าประเทศไทย มีการดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้นและต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ (ท่าอากาศยาน ท่าเรือ และด่านพรมแดนทางบก) ในสถานพยาบาล (ทั้งภาครัฐและเอกชน) และการเฝ้าระวังในชุมชน

สำหรับคนไทยที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยผ่านจุดผ่านแดนถาวรในพื้นที่จังหวัดชายแดนในระยะนี้ ตามจำนวนที่กำหนดล่วงหน้าแต่ละวัน ในแต่ละช่องทาง ซึ่งทุกคนจะเข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรอง วัดไข้ เฝ้าระวังสังเกตอาการและดูแล ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทย

โดยผู้ที่จะเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยต้องมีเอกสารสำคัญประกอบการเดินทาง 2 ฉบับ คือ

1.ใบรับรองแพทย์ หรือ fit to travel

2.หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศ ที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำประเทศที่พำนัก ซึ่งระบุรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เดินทาง ช่องทางผ่านแดนที่จะเดินทางกลับ วันที่จะเดินทาง จังหวัดที่พำนักอาศัยหรือจังหวัดภูมิลำเนาในประเทศไทย และลายมือชื่อของผู้เดินทางที่ลงนามรับทราบ และยินยอมรับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐกำหนด หรือ Local Quarantine เป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของภาครัฐ อันเป็นประโยชน์กับผู้เดินทางที่จะได้รับการดูแลวินิจฉัยโรคที่รวดเร็วหากติดเชื้อ และสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมส่วนรวม

นายแพทย์โสภณ กล่าวอีกว่า ในแต่ละจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในการดูแลคนไทยที่จะถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการในสถานที่ที่รัฐกำหนด เป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันควบคุมที่กำหนด โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคประชาชน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เดินทางได้รับการดูแลใกล้ชิด และประเทศไทยสามารถป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ