posttoday

ภาคประชาชนหนุนเลิกจำหน่ายสลากฯผ่านกระดาษ พลิกโอกาสโควิด-19ขายผ่านแอพฯแก้แพง

26 มีนาคม 2563

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน หนุนหยุดจำหน่ายสลากฯสู้โควิด-19 เสนอ4ข้อช่วยผู้ค้ารายย่อย “เจิมศักดิ์” ชี้ เป็นโอกาสทองเปลี่ยนไปขายผ่านแอพลิเคชั่นแทน แก้ปัญหาราคาแพงดึงเงินเข้ารัฐหลายหมื่นล้านบาท

กรณีคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลมีมติเลื่อนการออกรางวัลจากวันที่ 1เมษายนไปเป็นวันที่ 2พฤษภาคม และงดการจำหน่ายสลากไป2งวด คือ งวด 16เมษายน และ 2พฤษภาคม 63และจะคืนเงินให้แก่ผู้ที่ทำรายการจองสลากล่วงหน้างวดวันที่16เมษายน และมีแนวคิดจะปรับเปลี่ยนการจำหน่ายสลากมาสู่ช่องทางออนไลน์ แบบไม่กระทบผู้ขายทั้งหมด

นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เปิดเผยว่า ภาคประชาชน เห็นด้วยกับการงดการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อโควิด19จะคลี่คลาย ในประการแรก เพราะหากยังคงให้ผู้ค้าขายสลากต่อไป จะมีโอกาสทั้งเจ็บคือขาดทุน และป่วยคือได้รับเชื้อโควิด และอาจแพร่กระจายเชื้อต่อ และหากรัฐบาลประกาศนโยบายล็อคดาวน์ที่เข้มข้นขึ้นจนถึงการห้ามออกจากที่พักอาศัย ผู้ค้าจะไม่สามารถขายสลากได้เลย  

ประการต่อมา อยากให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดูแลช่วยเหลือผู้ค้าสลากรายย่อยด้วย เพราะผู้ค้ารายย่อยคือผู้ที่ทำคุณประโยชน์แก่สำนักงานสลากมากที่สุด เป็นผู้ทำให้กิจการสลากอยู่มาได้อย่างยาวนาน สำนักงานฯจึงควรมีน้ำใจต่อผู้ค้าที่เดือดร้อนในภาวะนี้ด้วย  น่าเสียดายที่ในการแก้ไขพ.ร.บ.สลาก พ.ศ.2562สำนักงานสลากได้ตัดมาตราว่าด้วย “กองทุนสลากฯเพื่อพัฒนาสังคม” ออกไป เพราะหากยังคงมีกองทุนนั้นอยู่จะสามารถนำมาสร้างระบบสวัสดิการให้แก่ผู้ค้าสลากได้ เพื่อดูแลยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือประสบความเดือดร้อนอื่น ๆ  

ประการที่สามขอสนับสนุนนโยบายของสำนักงานสลากฯ ในการสนับสนุนเงินให้แก่กิจการทางการแพทย์ต่าง ๆ เพื่อจัดหาทรัพยากรจำเป็นในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิด19 อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หากในวิกฤตการณ์นี้สำนักงานสามารถช่วยเพิ่มการสนับสนุนที่มากขึ้นก็จะถือเป็นการทำคุณอย่างใหญ่หลวง

ประการที่สี่ขอให้สำนักงานสลากฯใช้เวลาช่วงนี้เตรียมความพร้อมในการจำหน่ายสลากผ่านระบบแอพพลิเคชั่น เมื่อสถานการณ์ของโรคโควิด 19คลี่คลาย และพร้อมจะเริ่มกลับมาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งจึงเริ่มดำเนินการจำหน่ายสลากผ่านระบบแอพลิเคชั่น  ด้วยการลดจำนวนสลากใบลง เหลือไว้เพียงจำนวนหนึ่งสำหรับผู้ค้าที่เป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ยังจำเป็นต้องประกอบอาชีพ และผู้มีรายได้น้อยที่เข้าไม่ถึงโอกาส

ทั้งนี้ต้องรักษาเพดานของจำนวนสลากไว้ไม่ให้เพิ่มมากกว่าจำนวนเดิมที่100ล้านใบ หรือน้อยกว่าจำนวนเดิมระบบแอพลิเคชั่นนี้ให้นำมาใช้สำหรับจำหน่ายสลากหกหลักหรือสลากเดิม โดยไม่มีความจำเป็นต้องออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่างสลาก 12 นักษัตร หรือล็อตโต้ หรืออื่น ๆ เพราะเป็นที่ยืนยันแล้วว่าการแก้ปัญหาด้านผลิตภัณฑ์ เช่น  การพิมพ์สลากเพิ่มมากว่า 200% การออกสลากรวมชุด 2ใบ  ไม่ได้ทำให้ราคาสลากลงมาที่80บาทได้ และก็ไม่ได้ทำให้การเล่นหวยใต้ดินของประชาชนลดลง ผลสำรวจของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันชัดเจนว่าตลอด 4ปีที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้เล่นหวยใต้ดินลดลง และยังเพิ่มขึ้นจากเดิมด้วย  ซึ่งเป็นที่เชื่อได้ว่า การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งสองอย่างได้ ฉะนั้น การแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนช่องทางการจำหน่ายคือการแก้ที่ตรงจุดที่สุด เพราะจะทำให้อิทธิพลของปั๊วหมดไป เมื่อคนมาซื้อสลากจากสำนักงานโดยตรง

ด้าน นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน และอดีต ส.ว. กล่าวว่า ขอเสนอให้สนง.สลากระงับการออกสลากไปอย่างไม่มีกำหนด  รอจนสถานการณ์การแพร่เชื้อโควิดคลี่คลายลงแล้วค่อยกลับมาเริ่มต้นใหม่ เพราะช่วงนี้รัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีรายได้เพื่อจับจ่ายใช้สอยที่จำเป็น  และพยายามที่จะกระจายเงินออกไปสู่ประชาชน แต่หากรัฐบาลยังคงออกสลากอยู่ จะเป็นการดูดเงินออกจากมือประชาชนกลับมาสู่รัฐ  ซึ่งจะกลับกลายเป็นการกระทำในทางตรงกันข้าม  ถึงจะมีใครเถียงว่าถ้การถูกหวยจะทำให้มีเงินใช้ แต่มันจะได้เพียงคนส่วนน้อยไม่ถึงหยิบมือเท่านั้น แต่คนส่วนใหญ่คือคนเสีย การหยุดจำหน่ายสลากในช่วงนี้ยังจะช่วยทำให้การเล่นหวยใต้ดินของประชาชนลดลงไปพร้อม ๆ กันด้วย

"เมื่อเลื่อนการออกสลากไปแล้ว ถือเป็นจังหวะทองที่รัฐบาลจะเลิกวิธีการขายหวยกระดาษเปลี่ยนมาขายทางแอพพลิเคชั่นได้เลย เพื่อใช้ระบบนี้แก้ปัญหาสลากแพง  และจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลอย่างยิ่ง เพราะจะเกิดการประหยัดต้นทุนจากการจำหน่ายสลากใบ ทั้งค่าพิมพ์ ค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ และที่สำคัญคือส่วนที่ต้องแบ่งไปให้ผู้ค้าทั้งรายใหญ่รายเล็ก  รัฐจะได้เงินคืนกลับมามากกว่า 17% คิดเป็นเงินหลายหมื่นล้านบาทเอามาทำประโยชน์ได้มากมาย รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ค้าสลากใบที่มือดีขาดีตาดีเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นได้   มองมุมบวกคือโควิด 19เป็นโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลงดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้” ดร.เจิมศักดิ์กล่าว