posttoday

'บิ๊กป้อม' ห่วงภัยแล้งลุ่มน้ำโขง กำชับ สทนช. ประสานเพื่อนบ้านใกล้ชิด บริหารจัดการน้ำร่วมกัน

25 มีนาคม 2563

ประวิตร ห่วงภัยแล้งลุ่มน้ำโขง กำชับ สทนช. เร่งขับเคลื่อนคณะกรรมาธิการฯ ประสานเพื่อนบ้านใกล้ชิด บริหารจัดการน้ำร่วมกัน ด้านเลขาฯ สทนช. ติดตามระดับแม่น้ำโขง พร้อมเพิ่มอีก 2 สถานีวัด ที่บึงกาฬ-อำนาจเจริญ ภายใน 30 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.63 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่ 1/2563 โดยภายหลังการประชุม พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานประธานคณะกรรมการร่วมคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ของประเทศเวียดนามได้ครบวาระ และได้แจ้งต่อสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประกอบด้วย ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยคณะกรรมการร่วมฝ่ายไทยซึ่งมี นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะประธาน ได้เข้ารับตำแหน่งแทนเป็นระยะเวลา1 ปี ในวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.63 สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำโขงปัจจุบันมีระดับน้ำลดลงมาก ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ ร่างท่าทีประเทศไทยต่อโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว ที่อาจส่งผลกระทบในภาพรวมตามลุ่มน้ำโขงฝั่งไทย เช่น การเปลี่ยนแปลงด้านอุทกวิทยาและชลศาสตร์ระดับน้ำขึ้น-ลง อย่างฉับพลัน และช่วงเวลาไม่เป็นไปตามฤดูกาล ตะกอนและสารอาหาร การเปลี่ยนแปลงด้านการให้บริการของระบบนิเวศ การประมงและทางปลาผ่าน ด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการถอดบทเรียนโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่ผ่านมายังไม่สามารถประเมินผลกระทบได้อย่างชัดเจน เป็นต้น

“โดย พล.อ.ประวิตรได้กำชับ สทนช. ให้นำมติคณะกรรมการฯ ซึ่งเป็นท่าทีของไทยต่อโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนหลวงพระบาง สปป.ลาว เพื่อขับเคลื่อนการทำงานในกรอบความร่วมมือแม่น้ำโขงให้มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ร่วมกัน มีความยั่งยืน และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ รวมทั้งมีการกำหนดมาตรการ และแนวทางร่วมกันเพื่อลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง” พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ระบุ

ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการติดตามระดับแม่น้ำโขงจำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีเชียงแสน จ.เชียงราย สถานีเชียงคาน จ.เลย สถานีหนองคาย สถานีนครพนม สถานีมุกดาหาร และสถานีโขงเจียม จ.อุบลราชธานี โดยภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะมีสถานีวัดเพิ่มอีก 2 สถานี คือสถานีบึงกาฬและสถานีอำนาจเจริญ เพื่อตรวจสอบและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ครอบคลุม 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงให้รับทราบการศึกษาผลกระทบจากปรากฏการณ์แม่น้ำโขงเปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลของตะกอนที่พัดพา เป็นสีครามใสในภาวะตะกอนต่ำมาก ซึ่งจากการวิเคราะห์คุณภาพแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนมและเมืองท่าแขก สปป.ลาว พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศน์ คาดว่าถ้าเข้าสู่ภาวะหน้าน้ำในปีนี้ คุณภาพน้ำในแม่น้ำโขงจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ