posttoday

อัยการมั่นใจสั่งฟ้องคดีฆ่าชิงทองลพบุรีเร็วๆนี้ ขอศาลลงโทษฆาตกรสถานหนัก

11 กุมภาพันธ์ 2563

อัยการสูงสุดกำชับเร่งสั่งฟ้องคดีฆ่าชิงทองลพบุรี คาดสั่งฟ้องไม่เกินฝากขังครั้งที่3 ด้าน ตร.ส่งสำนวน1,600หน้า แจ้ง 9 ข้อหา ค้านประกันตัวจนกว่าคดีจะจบ พร้อมขอศาลลงโทษสถานหนัก

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 63 นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา , นายพรชัย ชลวานิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา , นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาทโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 และ พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. แถลงข่าวส่งมอบสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้อง นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าใน จังหวัดลพบุรี โดยใช้อาวุธปืนยิงจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

สำหรับสำนวนคดีมีจำนวน 4 แฟ้ม เป็นเอกสาร 1,665 หน้า และแผ่นซีดีภาพวงจรปิด

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งฟ้อง 9 ข้อหา ประกอบด้วย

1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

2.พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น

3.ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธและใช้ยานพาหนะเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส 4.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน

5.พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต

6.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

7.มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้

8.ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและฐานชิงทรัพย์

9. มียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนคณะทำงานมี นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นผู้ควบคุมการดำเนินคดี และตั้งคณะทำงานที่มีสำนักงานอัยการคดีอาญา6 รับผิดชอบตรวจสำนวนคดี

ขณะที่ นายสิงห์ชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า คดีนี้เหตุเกิดที่ จ.ลพบุรี เป็นคดีสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้กองปราบปรามทำการสอบสวนคดี เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงส่งมาที่สำนักงานคดีอาญา โดยเมื่อเป็นคดีสะเทือนขวัญ สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ หลังจากสำนักงานคดีอาญารับสำนวนแล้วตามระเบียบต้องรายงานให้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุดทราบ พร้อมตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีนี้ ซึ่งตนมอบหมายให้นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน

ส่วนสำนวนการสอบสวนมอบให้สำนักงานอัยการคดีอาญา 6 รับผิดชอบ โดยสำนวนนี้จะครบฝากขังครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมายนโยบายให้เร่งรีบดำเนินการส่งฟ้องศาลโดยเร็วที่สุดหากคณะทำงานพิจารณาสำนวนเรียบร้อยแล้วไม่มีประเด็นสอบสวนเพิ่มเติม

ด้าน นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน ซึ่งตนและคณะทำงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เคยมีโอกาสได้ทำคดีสำคัญหลายคดี โดยเฉพาะคดีที่ซับซ้อนกว่านี้ แต่คณะทำงานก็สามารถทำคดีให้ศาลลงโทษประหารชีวิตจำเลยได้ทั้งศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา โดยคณะทำงานชุดเดิมนี้เมื่อมาทำคดีนี้ก็มั่นใจว่ามีความรู้ความสามารถ จะทำคดีนี้ให้รวดเร็ว ซึ่งคดีสามารถฝากขังได้ 7 ครั้ง แต่หากตรวจดูพยานหลักฐานแล้วไม่ยุ่งยาก ก็คาดว่าไม่เกินฝากขังครั้งที่ 3 น่าจะฟ้องได้

ขณะที่ พล.ต.ท.วิสณุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะมาเอง แต่ติดภารกิจสำคัญ จึงมอบหมายให้ตนและคณะพนักงานสอบสวนที่ ตร. ตั้งขึ้นมา ซึ่งเราสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา มี พ.ต.อ.สมควร เป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้

ด้าน พ.ต.อ.สมควร รอง ผบก.ป. ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงของกลางที่ยึดได้ว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา สามารถยึดทองรูปพรรณได้เกือบทั้งหมด คือทองคำ 31 เส้น (มูลค่าราว 650,515 บาท) ขาดเพียงทอง 2 สลึง 1 เส้น มูลค่า 13,000 กว่าบาท ส่วนท่อเก็บเสียงปืน ผู้ต้องหาโยนทิ้งแม่น้ำที่ลพบุรี เจ้าหน้าที่ค้นหาแล้วแต่ไม่ได้มาเป็นของกลาง แต่เรามีพยานหลักฐานอื่นแน่นหนา เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำความผิด

"ผู้ต้องหากระทำผิดโดยลำพัง วางแผนเป็นขั้นตอน เล่าเรื่องหลอกภรรยา คนใกล้ชิด และทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้านตัวเอง การพิสูจน์ทราบตามที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ผู้ต้องหาพูดทั้งหมด ได้สอบสวนพยานผู้กล่าวหา 9 ปาก ผู้ต้องหา 1 ปาก และพยานบุคคลอื่นรวม 80 ปาก ประกอบพยานหลักฐานอาวุธปืน รถของกลาง และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่าพยานหลักฐานเพียงพอทุกข้อกล่าวหา"พ.ต.อ.สมควรกล่าว

ส่วนผู้เสียหายที่ต้องการติดต่อเข้าเป็นโจทก์ร่วมนั้น นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ระบุว่า ผู้เสียหายสามารถติดต่อผ่านอัยการจังหวัดลพบุรี หรือประสานโดยตรงที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 จะสะดวกกว่า แต่หากไม่สะดวกจริงๆ ก็สามารถติดต่อผ่านอัยการจังหวัดได้

นายประยุทธ รองโฆษกอัยการฯ กล่าวเสริมเรื่องนี้ว่า การจะยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม ญาติผู้เสียหายไม่ต้องไปจ้างทนายความ ให้รวบรวมข้อมูลค่าเสียหายมาให้สำนักงานอัยการรวบรวมเพื่อยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วม และเรียกค่าเสียหายทางแพ่งตาม ป.วิอาญา มาตรา 44/1 ได้

เมื่อถามถึงการที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานอัยการจะบรรยายฟ้องอย่างไรไม่ให้ศาลลดโทษ นายพรชัย รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวว่า การบรรยายฟ้องของอัยการ นอกจากการบรรยายการกระทำผิดแล้ว ข้อหาฆ่าผู้อื่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) มาตรา 289 มีโทษประหารชีวิต จะบรรยายฟ้องว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชน ทำแบบอุกอาจไม่กลัวกฎหมาย ให้ศาลลงโทษสถานหนัก

สิ่งที่กังวลว่าจำเลยรับสารภาพแล้วศาลจะลงโทษอย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาล แต่เราเคยฟ้องไปหลายคดี คดีที่ศาลเห็นว่าจำเลยรับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา อาจใช้ดุลยพินิจไม่ลดโทษให้ก็ได้

อย่างไรก็ดี นายพรชัย ยังห่วงใยถึงการใช้คำเรียกการกระทำผิดของคนร้ายในคดีนี้ว่า ตามกฎหมายเป็นการ ชิงทรัพย์ เนื่องจากผู้กระทำผิดคนเดียว ไม่ใช่การ ปล้นทรัพย์ อย่างที่ก่อนหน้านี้มีการเรียกกันผ่านสื่อบางประเภท เพราะการปล้นทรัพย์ต้องมีผู้กระทำผิดตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป

เมื่อถามถึงกระบวนการสืบพยาน ซึ่งอาจมีที่อยู่ต่างจังหวัดจะจัดการติดตามพยานได้สะดวกหรือไม่ นายสิงห์ชัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ระบุว่า การสืบพยาน พนักงานสอบสวนจะร่วมประสานพยานมา ซึ่งหากในพื้นที่ต่างจังหวัด ปัจจุบันศาลสามารถสืบพยานผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ ขณะที่เรื่องการติดตามพยานเพื่อนำสืบในชั้นศาลที่ผ่านมา อัยการสำนักงานคดีอาญาเคยประชุมร่วมกับตำรวจนครบาลและกองปราบฯ แล้ว ทำให้การแก้ไขติดตามพยานมานำสืบในชั้นศาลให้ได้รวดเร็ว ที่ผ่านมาการติดตามพยานของตำรวจนครบาลหลายคดีก็ดีขึ้น ส่วนพยานที่ใช้สืบในชั้นศาลนั้นจะเลือกพยานสำคัญและจำเป็น ซึ่งคณะทำงานจะเป็นผู้พิจารณา หากผู้กระทำผิดจะให้การปฏิเสธในชั้นศาล เราก็จะปรับแนวทางการสืบพยานตามรูปคดี

ทั้งนี้ พล.ต.ท.อำพล ผบช.ภ.1 ระบุจะรับเรื่องที่จะไปประสานกับญาติของผู้เสียหายให้ทราบข้อมูลและขั้นตอนการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม เพื่อจะให้ผู้เสียหายเกิดความสะดวกรวดเร็ว ในการนำเอกสารหลักฐานมาขอเป็นโจทก์ร่วม พร้อมรับปากว่าจะติดตามพยานมาให้อัยการได้ตามที่ครบทุกปาก โดยในส่วนของการคัดค้านให้ประกันตัวนั้น ยืนยันว่าตำรวจจะร่วมกับอัยการคัดค้านจนคดีถึงที่สุด