posttoday

ป.ป.ส.เตือน "กัญชง" ยังเป็นพืชเสพติดห้ามปลูกจนกว่ากม.ใหม่จะบังคับใช้

30 มกราคม 2563

ป.ป.ส.เตือนกัญชงยังเป็นพืชเสพติดประเภท 5 ห้ามปลูก ต้องรอกฎหมายมีผลบังคับใช้ก่อน พร้อมดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจ-ขยายใช้ดอก-เมล็ด-อนุญาตเอกชนปลูก

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 63 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) กล่าวว่า แม้ครม.จะมีมติเห็นชอบพืชกัญชงพ้นบัญชียาเสพติดประเภท 5 แล้ว แต่ขณะนี้ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และครม.ให้ความเห็นชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ลงนามในกฎกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเพื่อมีผลใช้บังคับต่อไป และคาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน

ซึ่งการพิจารณาร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. .… นั้นเป็นต้องการปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขทดแทนกฎกระทรวงฯ เดิมที่มีความเข้มงวดให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

นายนิยม กล่าวว่า หลังจากร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับดังกล่าวมีผลใช้บังคับก็จะมีการส่งเสริมให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ และขยายขอบเขตการใช้ประโยชน์จากที่เคยจำกัดเฉพาะเส้นใย ก็สามารถนำช่อดอก และเมล็ด เพื่อนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ และให้ภาคเอกชนสามารถขออนุญาตใช้ได้จากเดิมที่ให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐ

ส่วนประชาชนโดยเฉพาะชาวเขาที่มีการใช้ประโยชน์พืชกัญชงตามวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ใช้เส้นใยมาผลิตเครื่องนุ่งห่มก็สามารถขออนุญาตปลูกกัญชงได้ครัวเรือนละไม่เกิน 1 ไร่ และสามารถปลูกและพัฒนาสายพันธุ์กัญชง โดยในระยะ 5 ปีแรก และห้ามมิให้นำเข้ายกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น

“ขอย้ำว่าขณะนี้กัญชง (Hemp) ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่ห้ามมิให้ปลูก ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เว้นแต่ที่อยู่ในรูปของเปลือก แกน ลำต้นแห้ง และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากสิ่งดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จะต้องดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน”เลขาฯป.ป.ส.กล่าว