"วีระ" ห่วงคดีปารีณารุกป่ายืดเยื้อจนเสียรูปคดี

"วีระ"คาใจ คดีปารีณารุกป่าล่าช้าเมื่อเทียบกับคดีชาวบ้านทั่วไปรุกป่า ห่วงยิ่งยืดเยื้อจะทำให้เสียรูปคดี

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 63 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( บก.ปทส.) เพื่อสอบถามความคืบหน้า การดำเนินคดี กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของ นางสาวปารีณา กรณีครอบครองที่ดินบุกรุกที่ป่าสงวน

นายวีระ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าคดีนี้ หลังจากที่ได้มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.จอมบึง และ สภ.สวนผึ้ง ตั้งแต่เดือน พ.ย.2562 แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เพราะ หลังจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ให้ ปทส.รับสำนวนการสอบสวน มาดำเนินคดี ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2563 จากนั้น ผบก.ปทส. ได้สั่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ขึ้นมา เพียง 1 ชุด เพื่อพิจารณาคดีของน.ส.ปารีณา แต่คดีที่มีการกล่าวหา นายทวี พื้นที่ สภ.สวนผึ้ง นั้น ทราบว่า ได้ส่งคืนกลับไปให้ สภ.สวนผึ้ง แล้ว

"คดีนี้ มีความล่าช้า หากเทียบกับคดีที่ชาวบ้านทั่วไปรุกป่าสงวน ซึ่งข้อกฎหมายก็ระบุความผิดไว้ชัดเจน และน.ส.ปารีณา ก็เคยยืนยันมาตลอดว่าที่ดินดังกล่าวนั้นเป็นของตัวเอง และถือครองก่อนจะเป็นที่ดิน ส.ป.ก. โดย น.ส.ปารีณา ยังอ้างว่าถือครองที่ดิน ภ.ท.บ.5 ทั้งที่ความจริงนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะที่ดินผืนนั้นเป็นพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งกฎหมายระบุว่า ที่ดิน ภ.ท.บ.5 ต้องเป็นพื้นที่ป่าหมดสภาพ ที่ให้ประชาชาเข้าไปใช้ทำมาหากินและเสียภาษี"นายวีระกล่าว

นายวีระกล่าวอีกว่า หากคดียืดเยื้อยาวนานกว่านี้จะเสียรูปคดี เพราะยังมีความผิดฐานอื่นนอกจากคดีอาญาด้วย

ด้าน พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( บก.ปทส.) กล่าวว่า คดีนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีที่มีการกล่าวหา น.ส.ปารีณา ทั้งหมด 10 ท่าน โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ ตั้งกรอบการทำงานอะไร แต่ให้อิสระ คณะพนักงานสอบสวน ดำเนินการทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีกรอบระยะเวลาการทำงาน กันอยู่แล้ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาสำนวน ไม่นาน เพราะที่ผ่าน ทาง ปทส. ก็มีการดำเนินการสอบสวน ไว้ก่อนอยู่แล้ว

ภาพจาก www.fm91bkk.com