posttoday

"โจ๊ก"ย้ำถูกยิงปมยกเลิก"ไบโอเมทริกซ์"ถ้าเป็นผบ.ตร.จับใครไม่ได้ต้องรับผิดชอบ

08 มกราคม 2563

"พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล"ย้ำปมถูกมือปืนยิงรถเหตุยื่นยกเลิกโครงการ"ไบโอเมทริกซ์"ลั่นถ้าวันนี้เป็นผบ.ตร.จับใครไม่ได้ต้องรับผิดชอบ

"พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล"ย้ำปมถูกมือปืนยิงรถเหตุยื่นยกเลิกโครงการ"ไบโอเมทริกซ์"ลั่นถ้าวันนี้เป็นผบ.ตร.จับใครไม่ได้ต้องรับผิดชอบ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์”กรณี2มือปืนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์โตโยต้า เล็กซัส สีขาว ที่จอดอยู่ในย่านถนนสุรวงศ์ โดยเจ้าตัวเชื่อว่าสาเหตุของการถูกยิงถล่มนั้น มาจากเรื่องปมยื่นยกเลิกโครงการ"ไบโอเมทริกซ์"แน่นอน ไม่มีประเด็นอื่น เพราะตัวเองไม่ได้ทำธุรกิจอะไร และไม่ได้มีเรื่องของชู้สาว และคิดว่าการยิงมีสองส่วนคือทั้งหวังฆ่าและขู่

ก่อนหน้านี้มีข้อมูลการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงเตือนว่า"อย่าไปร้านนวดร้านนี้" แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็มาแค่เดือนละครั้ง และขับรถมาเอง ถึงวันนี้ก็ได้มีความพยายามนัดเจรจากัน ผ่านผู้ใหญ่คนโน้นคนนี้ ซึ่งก็มีเพียงคนเดียวเป็นผู้ชาย แวดวงสีกากีรู้จักกันดี

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุด้วยว่า เรื่องนี้ ถ้าหากวันนี้เป็นผบ.ตร.แล้วจับคนร้ายไม่ได้ต้องรับผิดชอบ เพราะสมัยเป็นตำรวจคนร้ายหนีไปต่างประเทศยังตามไปจับได้ แต่คดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรทำไม 3 วันแล้วยังจับไม่ได้ วันนี้ขอเรียนยืนยันว่าความยุติธรรมต้องมี

ที่ สน.บางรัก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้นำเอกสารแจ้งปัญหาข้อขัดข้องกรณีปิดการใช้งานระบบ PIBEC และใช้งานระบบ BIOMETRICS มามอบให้กับพนักงานสอบสวน ที่ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุที่ถูกคนร้ายลอบยิงรถ

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้สร้างภาพ สร้างสถานการณ์ เพราะไม่มีมีมูลเหตุจูงใจว่าจะทำไปเพื่ออะไร เพราะรถก็เสียหาย และเป็นผู้ถูกกระทำ ขณะเดียวกัน เมื่อสองปีก่อนมีเหตุคนร้ายยิงรถของนักข่าว และจนขณะนี้ก็ยังจับไม่ได้ ทำให้เชื่อว่าเป็นแผนประทุษกรรมเดียวกัน คนวงในก็ต้องรู้ว่าใครยิง

ส่วนประเด็นที่มองว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งจากโครงการไบโอเมตริกซ์ เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เซ็นหนังสือ 2 ฉบับ ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ยกเลิกโครงการดังกล่าวเนื่องจากล่าช้าและส่งงานไม่ทัน อีกทั้งยังเปลี่ยนผู้บัญชาการมาถึง 2 คนก็ไม่แล้วเสร็จ และไม่มีใครดำเนินการยกเลิกโครงการดังกล่าว ถ้าไม่พบความผิดจริงก็ไม่เซ็นต์ยกเลิก เพราะบริษัทคู่สัญญาจะมาฟ้องตนได้ และที่ไม่ถูกฟ้องเพราะทำตามหน้าที่ เหตุการณ์ที่มาเกิดในช่วงนี้ คาดว่าใกล้ถึงเวลาที่ ป.ป.ช.จะเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องกับโครงการไบโอเมตริกซ์ พร้อมประสานมายังตนบ้าง แต่ยังไม่ระบุวัน ซึ่งพยานปากอื่นที่ไม่ได้เซ็นต์รับ คงไม่เสียขวัญเพราะถูกย้ายหมดแล้ว ยืนยันว่าการออกมาในครั้งนึ้ ไม่ได้ท้าชนใคร เพราะต้องการให้ความจริงปรากฎ เนื่องจากโครงการไบโอเมตริกซ์เป็นสมบัติชาติ และมีมูลค่าถึง 2,000 ล้านบาท

ส่วนทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไปร้องเรียนกับ ป.ป.ช.นั้นก็เป็นช่วงหลังจากตนเซ็นต์หนังสือเอง และไม่ได้บอกใคร ก็ถือว่าทนายตั้ม ทำหน้าที่ในภาคประชาชน อาจมีคนอาจพอใจหรือไม่ก็ได้ แต่ตนก็ต้องยึดผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเป็นหลัก

“ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการชิงตำแหน่ง หรือกลับไปดำรงตำแหน่งกับตำรวจด้วยวิธีการแบบนี้ แม้จะอยากกลับ เพราะตนเป็นตำรวจอาชีพ กลับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ขอทำหน้าที่ข้าราชการให้ดีที่สุด เพราะหลังจากโดนย้ายออกก็เก็บตัวมาเป็นปี และไม่ได้ไปร้องเรียนที่ไหน รวมถึงไม่มีสื่อได้สัมภาษณ์” อดีต ผบช.สตม. กล่าว

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายสองคนใช้อาวุธปืนลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ว่าประเด็นการตรวจสอบพยานหลักฐาน ด้านการตรวจสอบทางเทคนิคต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากรถยนต์เป็นรถที่มีราคาแพง การจะรื้อรถตรวจสอบหาหัวกระสุน ที่อยู่ในรถจำนวน 6 หัว เกรงว่าจะทำให้ทรัพย์สินซึ่งเป็นรถราคาแพงเสียหายได้ โดยจะมีการสอบปากคำผู้เสียหายคือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ โดยจะมีการสอบถาม พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ประเด็นนี้ด้วยว่าจะอนุญาตให้รื้อรถยนต์โดยช่างหรือเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้หรือไม่ ทั้งนี้หากได้หัวกระสุนเพิ่มเติมจะช่วยในเรื่องการตรวจสอบเปรียบเทียบให้สิ้นสงสัย ว่าหัวกระสุนตรงกับการก่อคดีอะไรหรือไม่ และจะได้ยืนยันว่ากระสุนที่ถูกใช้ในการก่อเหตุเป็นขนาดใด เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นกระสุนขนาด .38 หรือ ขนาด 9 มม. ขณะนี้ทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์หาตัวผู้ก่อเหตุว่าเป็นบุคคลใด ส่วนสาเหตุยังไม่ได้มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องพิสูจน์ทราบในทุกเรื่อง แม้ว่าทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องไบโอเมตริกซ์ สำหรับลักษณะในการก่อเหตุคนยิงรู้อยู่แล้วว่าในรถไม่มีคน จึงไม่น่าจะประสงค์ต่อชีวิต ทั้งนี้ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังไม่มีการร้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังไม่รู้วัตถุประสงค์ในการก่อเหตุครั้งนี้ จะต้องจับตัวคนร้ายให้ได้ก่อน จึงจะทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

พล.ต.ท.ภัคพงษ์ เปิดเผยต่อว่า ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน โดยมีการแบ่งงานกันทำ โดยให้ทาง กก.สส.บก.น.6 รับผิดชอบตรวจสอบก่อนเกิดเหตุ ส่วนสน.บางรัก รับผิดชอบขณะเกิดเหตุ และทาง บก.สส.บช.น. รับผิดชอบตรวจสอบหลังเกิดเหตุ ส่วนการสอบสวนมี พล.ต.ต.สุคุณ เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนระดับบก. มอบหมายให้ทางสน.บางรัก เป็นผู้ดำเนินการ ทาง พล.ต.ต.สุคุณ เป็นผู้ควบคุมในภาพรวมของการสอบสวน ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนจึงจะตั้งพนักงานสอบสวน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับปลอกกระสุนปืนที่หายไป ไม่พบในที่เกิดเหตุ นั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาวุธปืนที่ใช้อาจเป็นอาวุธปืนรีวอลเวอร์ หรือออโตเมติก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีที่มีขีดความสามารถเก็บปลอกกระสุนได้ กลุ่มมือปืนใช้เยอะจะทราบว่ามีถุงเก็บปลอก เวลายิงปลอกกระสุนจะกระเด็นเข้าไปในถุง จึงทำให้ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนปืน แต่ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนขนาด .38 หรือ ขนาด 9 มม. เนื่องจากทั้งสองขนาดมีหัวกระสุนเท่ากัน อย่างไรก็ตามหัวกระสุน 2 หัวที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นยังมีสภาพบิดเบี้ยว จึงจำเป็นต้องหาหัวกระสุนที่ตกอยู่ในรถอีก 6 หัว มาตรวจสอบเปรียบเทียบกับ 2 หัวกระสุนที่พบ เพื่อยืนยันขนาดกระสุนที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้แม่นยำและสามารถชี้ได้ว่าใช้อาวุธปืนอะไรในการก่อเหตุ

ด้าน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกระแสข่าว ป.ป.ช.จะเรียก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาให้ข้อมูลโครงการไบโอเมทริกซ์ หรือการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลของ สตม. วงเงิน 2,100 ล้านบาท ที่ถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส ว่า ขณะนี้โครงการไบโอเมทริกซ์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน โดยรวบรวมพยานหลักฐานไปได้แล้วประมาณ 50% แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูง อาจจะต้องพิจารณาเรียกตัวบุคคลต่างๆ มาให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ช.

“คณะทำงานกำลังพิจารณาว่าจะต้องเรียกใครมาให้ข้อมูลหรือไม่ และในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบดูการติดตั้งเครื่องไบโอเมทริกซ์ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ว่าสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ ส่วนจะต้องเรียก พล.ต.ท.สุรเชษฐมาให้ข้อมูลต่อป.ป.ช.หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการใช้ดุลยพินิจของคณะทำงานฯ แต่ยังไม่มีการแจ้งมายังที่ประชุมป.ป.ช.ว่า จะเรียกพล.ต.ท.สุรเชษฐมาให้ข้อมูล” เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุ.