posttoday

คุมประพฤติส่งคนเมาขับปีใหม่เข้าค่ายปรับพฤติกรรม3วัน

08 มกราคม 2563

กรมคุมประพฤติ ส่งกลุ่มเมาแล้วขับช่วงปีใหม่63 เข้าค่ายปรับพฤติกรรม3วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยง 117ราย ส่งเข้าบำบัดอาการติดสุราเรื้อรัง 4 เดือน ช่วงสงกรานต์ส่งอาสาประจำด่านชุมชน เพิ่มศักยภาพจับขี้เมา

กรมคุมประพฤติ ส่งกลุ่มเมาแล้วขับช่วงปีใหม่63 เข้าค่ายปรับพฤติกรรม3วัน ส่วนกลุ่มเสี่ยง 117ราย ส่งเข้าบำบัดอาการติดสุราเรื้อรัง 4 เดือน ช่วงสงกรานต์ส่งอาสาประจำด่านชุมชน เพิ่มศักยภาพจับขี้เมา

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ แถลงสรุปยอดคดีเมาแล้วขับที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 62 ถึง 2ม.ค. 2563 ว่า มีสถิติคดีที่เข้าสู่ระบบงานคุมประพฤติจำนวนทั้งสิ้น 12,360 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา สูงสุดถึง 11,997 คดี หรือร้อยละ 97 และคดีขับเสพ จำนวน345 คดี คดีขับรถประมาท 17 คดี คดีขับซิ่ง/แข่งรถ 1 คดี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบสถิติกับเทศกาลปีที่ผ่านมา พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุราเพิ่มขึ้น 3,291 คดี คิดเป็นร้อยละ 37.80 และเป็นการกระทำผิดซ้ำย้อนหลัง 1 ปี 362 ราย และทำผิดซ้ำ เฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ 24 ราย โดยกรมคุมประพฤติจะให้ผู้กระทำความผิดทุกรายทำแบบประเมินคัดกรองพฤติกรรมการดื่มสุรา เพื่อนำผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากเป็นผู้ติดสุราเรื้อรัง เข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาล 4 เดือน จำนวน 117 ราย โดยล๊อตแรกจะเข้ารับการบำบัด 47 ราย ส่วนผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงปานกลาง 1,424 ราย หรือร้อยละ 50 จะส่งเข้าค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 3 วันเพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกไม่ดื่มสุรา โดยระหว่างที่อยุ่ใรค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีนักจิตวิทยาคอยให้คำแนะนำ หลังออกจากค่ายยังต้องทำงานบริการสังคมดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และจะนำเข้าไปห้องดับจิตเพื่อไปดูสภาพผู้ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมถึงพาไปเยี่ยมครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากดำเนินการมาตรการณ์คุมประพฤติ และผู้ที่ถูกจับเมาแล้วขับ พบว่าผู้ถูกดำเนินคดียินยอมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของกฎหมาย ไม่มีรายใดหลบหนีหรือฝ่าฝืนเงื่อนไข แต่สิ่งที่จะต้องนำไปทบทวนปรับปรุงเพื่อรับมือกับเทศกาลสงกรานต์ โดยในช่วงปีใหม่พบว่ายังมีจุดอ่อนอยู่ในด่านชุมชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์กรมคุมประพฤติจะส่งเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครไปประจำในทุกๆด่านชุมชน เพื่อไม่ให้มีช่องว่างในการตรวจจับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์