posttoday

รัฐบาลลุยแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมในทะเล ชี้ทำคนไทยสูญเสียผลประโยชน์

03 มกราคม 2563

พล.อ.ประวิตรเรียกถกปัญหาความเสื่อมโทรมทางทะเลที่ขยายตัว ย้ำเร่งสร้างความร่วมมือฟื้นฟูสุขภาพทางทะเล โดยยึดประโยชน์ส่วนรวม

พล.อ.ประวิตรเรียกถกปัญหาความเสื่อมโทรมทางทะเลที่ขยายตัว ย้ำเร่งสร้างความร่วมมือฟื้นฟูสุขภาพทางทะเล โดยยึดประโยชน์ส่วนรวม

เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 63 พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม. ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ณ ห้องประชุม สมช. เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พล.ท.คงชีพกล่าวว่าที่ประชุมรับทราบ สถานการณ์โลกและภูมิภาค ที่มีการใช้ประโยชน์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมทางทะเลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบไม่มีทิศทาง ส่งผลต่อความเสื่อมโทรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมากขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะประเทศไทย มีมูลค่าของเศรษฐกิจภาคทะเล ปี 57 สูงถึง 24 ล้านล้านบาท หรือช่วง ปี 50 - 58 มูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจภาคทะเลประมาณ ร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ แต่ผลประโยชน์ทางทะเลที่ประเทศไทยได้รับไม่ตกอยู่กับคนไทยในสัดส่วนที่ควรจะเป็น โดยปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่การสูญเสียผลประโยชน์ทางทะเลสุทธิ โดยเฉพาะการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบ โครงสร้างอัตรากำลังของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและแผนปฏิบัติการ ปี 63-65 ที่เน้นการดำเนินงานใน 5 กลยุทธ์ คือ

1) การเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง แก้ไขหรือบรรเทาปัญหา เหตุการณ์สาธารณภัยและการกระทำผิดกฎหมาย

2)การพัฒนาขีดความสามารถและมาตรฐานของบุคลากร

3) การพัฒนาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก

4) การพัฒนาระบบควบคุมบังคับบัญชาและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

5) การประชาสัมพันธ์และการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน

พล.ท.คงชีพกล่าวว่าที่ประชุมเห็นชอบ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล เพื่อเป็นกลไกทางวิชาการ สนับสนุนข้อมูลทางนโยบายและการขับเคลื่อนการปฏิบัติ พร้อมทั้งรับทราบความคืบหน้าอนุบัญญัติรองรับพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. 2562

พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ขอให้หน่วยงานหลักของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต้องถือเป็นหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและให้ความสำคัญเดินหน้าขับเคลื่อนกลไกในความรับผิดชอบสนับสนุนการดำเนินงานภายใต้ พรบ.การรักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลให้โปร่งใสและบังเกิดผลอย่างจริงจัง โดยต้องมีตัวชี้วัดสะท้อนกับสถานการณ์ความเป็นจริง มีการวางแผนเชิงพื้นที่ทางทะเล ขอให้ร่วมกันสร้างความปลอดภัยทั้งมิติในและนอกประเทศไปด้วยกัน รวมทั้งให้ปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนและประโยชน์ต้องตกกับคนไทยส่วนใหญ่

ทั้งนี้ ขอให้คำนึงถึงทั้งมิติความมั่นคง มิติเศรษฐกิจทางทะเลและมิติของสุขภาพทางทะเลควบคู่ไปด้วยกัน ขณะเดียวกันต้องสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและต้องไม่ละเลยรับฟังผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อขยายพลังความร่วมมือในการฟื้นฟูและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลไปด้วยกัน