posttoday

ศาลอนุมัติหมายจับ"ชัยวัฒน์"พร้อมพวก 4 รายคดีฆ่าบิลลี่กระเหรี่ยงแก่งกระจาน

11 พฤศจิกายน 2562

อธิบดีดีเอสไอเผยศาลออกหมายจับ"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร"อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก 4 ราย ข้อหา ฆ่าปล้นทรัพย์กักขังหน่วงเหนี่ยว

อธิบดีดีเอสไอเผยศาลออกหมายจับ"ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร"อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก 4 ราย ข้อหา ฆ่าปล้นทรัพย์กักขังหน่วงเหนี่ยว

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.  พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพวก รวม 4 ราย ในหลายข้อหา ฆ่าปล้นทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยวคดีบิลลี่ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในรายละเอียด อย่างไรก็ตามดีเอสไอจะเร่งประชุมหารือคณะพนักงานสอบสวน เพื่อเตรียมชุดจับกุม หากจะมามอบตัวดีเอสไอก็พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนและให้ความเป็นธรรม

ในเวลาต่อมา คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับฐานความผิดที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯได้ออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก ประกอบด้วย นายบุญแทน บุษราคำ ,นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ รวม 4 คน ในความผิดฐานดังนี้

(1) ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้

(2) ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้นและได้กระทำโดยมีอาวุธ

(3) ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย

(4) ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น และมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ

(5) ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป

(6) ร่วมกันโดยทุจริตเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 289 (4) (7), 309, 310, 337, 340, 340 ตรี ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ทวิ รวมทั้งความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 148, 157 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 123/1 และมาตรา 172 อันเป็นความผิดที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ไต่สวนพบมูลความผิดแล้วด้วย