posttoday

ผบ.ตร.กำชับให้ความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่าย คดีตร.ยิงสกัดกระบะทำเด็ก13ดับ

16 ตุลาคม 2562

โฆษกตำรวจเผย ผบ.ตร.กำชับให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย คดีตำรวจสภ.แม่กา ยิงสกัดรถกระบะ กระสุนถูกเด็ก 13 เสียชีวิต

โฆษกตำรวจเผย ผบ.ตร.กำชับให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย คดีตำรวจสภ.แม่กา ยิงสกัดรถกระบะ กระสุนถูกเด็ก 13 เสียชีวิต

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษกตำรวจเปิดเผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่กา จว.พะเยา ใช้อาวุธปืน ยิงสกัดจับรถยนต์กระบะต้องสงสัย หลบหนีจุดตรวจ-จุดสกัด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ว่า ได้รับรายงานจาก ตำรวจภูธรภาค 5 ว่า เมื่อวันที่ 14 ต.ค.62 เวลาประมาณ 14.30 น. สภ.วังเหนือ จว.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธยิงกันบริเวณสามแยกทางเข้าบ้านเมืองตึง(ข้างตู้ยามวังทอง)ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง

พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ รถกระบะ จอดอยู่ สภาพล้อยางทั้ง 4 เส้นแบน โดยที่เกิดเหตุนายมานพ สูงขาว อายุ 34 ปี ผู้ขับขี่รถยนต์ และ ด.ช.กฤษณพงษ์ อายุ 13 ปี บุตรชาย ถูกลูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศรีษะ นำตัวส่งโรงบาลวังเหนือ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำ สภ.แม่กา จว.พะเยา ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด บริเวณถนนสายวังเหนือ-พะเยา ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีว่ามีรถยนต์กระบะขนยาบ้ามาจากอำเภอวังเหนือมุ่งหน้าไปจังหวัดพะเยา ต่อมาเวลาประมาณ 13.50 น. พบรถยนต์ต้องสงสัยตรงกับที่ได้รับแจ้ง จึงได้แสดงตนเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวได้กลับรถและขับรถหลบหนี มุ่งย้อนกลับไปอำเภอวังเหนือ จึงได้ขับรถไล่ติดตาม

เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายมานพ ได้ขับรถชนท้ายรถแทรคเตอร์ของชาวบ้านและพยายามจะถอยรถมาชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงไปที่รถของ นายมานพ เมื่อเห็นว่ารถได้จอดนิ่งแล้วจึงได้เข้าตรวจสอบพบว่ามี ด.ช.กฤษณพงศ์ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.วังเหนือ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย พบ สุรากลั่นยังไม่ผ่านการเสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 18 ถุง จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า คดีนี้แบ่งสำนวนการสอบสวนออกเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนคดีซื้อหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิต โดยฝ่าฝืน , สำนวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และ สำนวนคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งในเบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.วังเหนือ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 ราย ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ไปแล้ว และจะมีการเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหลังจาก ด.ช.กฤษณพงษ์ เสียชีวิต

ในส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก.ภ.จว.พะเยา ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและให้ความกระจ่างแก่สังคม

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ ประกอบการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการนำหลักการของยุทธวิธีตำรวจและการตัดสินใจใช้อาวุธปืน อย่างเพียงพอหรือไม่ กระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ยึดหลักตามยุทธวิธีตำรวจ ที่ได้รับการฝึก อบรม ทบทวน มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด , การตรวจค้นบุคคล-ยานพาหนะ , การจับกุม ประกอบกับการตัดสินใจใช้อาวุธปืนในภาวะวิกฤติต่างๆ โดยนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับหมั่นฝึกทบทวนอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ลดการสูญเสีย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องยึดหลัก กระทำการตามอำนาจหน้าที่ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้หลักยุทธวิธีตำรวจควบคู่กันไป