posttoday

สั่งตั้งกก.สอบแล้ว! อาสาตำรวจสกัดจักรยานยนต์จนเด็กบาดเจ็บ

27 มีนาคม 2562

รองโฆษกตำรวจแจงเหตุอาสาตำรวจสกัดจักรยานยนต์จนเด็กที่ซ้อนมาบาดเจ็บ ชี้คนขี่รถพยายามหลบหนี เผยสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว

รองโฆษกตำรวจแจงเหตุอาสาตำรวจสกัดจักรยานยนต์จนเด็กที่ซ้อนมาบาดเจ็บ ชี้คนขี่รถพยายามหลบหนี เผยสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว

เมื่อวันที่ 27 มี.ค.62 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจเปิดเผยว่า กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ กรณี มีผู้ขับขับขี่รถจักรยานยนต์มากับครอบครัวแล้วเจอจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ของ สภ.หนองปรือ จว.ชลบุรี จากนั้นผู้ขับขี่ได้กลับรถหลบหนีเพื่อไม่ผ่านเข้ามายังบริเวณจุดตรวจจุดสกัด แล้วมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสามาทำการดักสกัด ทำให้มีเด็กที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย ได้รับบาดเจ็บ จนเป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์อย่างแพร่หลายนั้น

ล่าสุดได้รับรายงานจาก สภ.หนองปรือ ภ.จว.ชลบุรี ว่าเมื่อวันที่ 26 มี.ค.62 เวลาประมาณ 21.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม ได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ตำรวจอาสา เพื่อตั้งจุดตรวจจุดสกัด ในการป้องกันเหตุและอาชญากรรม บริเวณซอยเขาตาโล 9 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ต่อมาในระหว่างที่กำลังจะตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่นั้น ได้มี ชายอายุ 28 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณจุดตรวจจุดสกัด โดยมี หญิงอายุ 25 ปี และ บุตรชายวัย 2 ขวบ นั่งโดยสารมาด้วย เมื่อผู้ขับขี่จักรยานยนต์เห็นจุดตรวจ ได้เลี้ยวรถกลับ เพื่อที่จะหลบหนี ซึ่งมี นายจักรภพ บุญรอด อายุ 23 ปี (ตร.อาสา สภ.หนองปรือ) ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้เรียกให้หยุด แต่ ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ยอมหยุดและเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี

นายจักรภพ จึงได้หยิบไม้ที่วางอยู่บริเวณข้างทางออกมาเพื่อกันไว้ แต่ผู้ขับขี่ผู้ขับขี่ได้ก้มตัวหลบ เป็นเหตุให้ไม้ตวัดไปโดนศีรษะ เด็กชาย ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบพาตัว เด็กชาย ส่งโรงพยาบาลบางละมุง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา หญิงที่เป็นมารดาของเด็กมาพบพนักงานสอบสวนในกรณีที่บุตรชายได้รับบาดเจ็บ โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์และดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว อีกทั้งในส่วนของ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อเพื่อให้มาพบ แต่เจ้าตัวบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาพบแต่อย่างใด โดยในวันนี้(27 มี.ค.62) พนักงานสอบสวนได้นัดหมายเพื่อมาทำการสอบสวนปากคำเพื่อประกอบคดีต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้คณะกรรมการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาตามกฎหมายต่อไป ส่วนของคดีที่เด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจจากแพทย์ และที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี โดยจะดำเนินการสืบสวนสอบด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เป็นไปตามแผนการปฏิบัติและวงรอบเพื่อป้องกันเหตุและอาชญากรรมในพื้นที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสานั้นก็ได้รับการแต่งตั้งและมีใบอนุญาตจาก สภ.หนองปรือ

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตอบคำถามสังคมได้นั้น สภ.หนองปรือ ก็มีการตั้งคณะกรรมสืบสวนตรวจสอบขึ้นแล้ว หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว ในส่วนของคดีที่มารดาของเด็กที่ได้รับความเสียหายนั้น พนักงานสอบสวนเองก็จะเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานและนำผลการตรวจจากแพทย์มาประกอบคดี สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และจะทำการสวนสอบสวนด้วยความโปร่งใส รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ให้กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติหน้าที่ให้คำนึงถึงหลักยุทธวิธีและความปลอดภัย ทั้งของตัวเจ้าหน้าที่เอง และประชาชนผู้ที่สัญจรผ่านมาบริเวณจุดตรวจจุดสกัด สถานที่ ไฟส่องสว่างในเวลากลางคืน อุปกรณ์สะท้อนแสง

พร้อมให้ผู้บังคับบัญชา คอยสอดส่อง ดูแล การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย โดยหากพบว่าตำรวจ หรือผู้ช่วยเจ้าพนักงานของตำรวจ เป็นผู้กระทำความผิดเสียเองและสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน ผบ.ตร.ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างแท้จริง