คุยหมดเปลือก "ทองใบ เสริฐสอน" เจ้าของสโลแกนหาเสียง "อุ้มหมาไปหาหมอ"

ทำความรู้จักผู้สมัคร สส.เขต 4 นนทบุรี เจ้าของสโลแกนปายหาเสียง "อุ้มหมาไปหาหมอ" เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

กลายเป็นกระแสที่ถูกแชร์และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์ เมื่อหนึ่งในผู้สมัครส.ส.นนทบุรี เขต 4 พรรครวมพลังประชาชาติไทย "ทองใบ เสริฐสอน" หรือ อดีตสจ.ทองใบ ขึ้นข้อความตัวโตบนป้ายหาเสียงว่า ผลงานที่ผ่านมาคือการ "อุ้มหมาไปหาหมอ" เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 

ท่ามกลางคำถามของผู้ที่ได้พบเห็นป้ายหาเสียงป้ายนี้ โพสต์ทูเดย์ได้พูดคุยกับ อดีตสจ.ทองใบ ถึงไอเดียข้อความบนป้ายว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไรกัน?

เขาบอกว่า โครงการนี้เริ่มขึ้นสมัยที่ทำงานเป็นสภาเทศบาลนครปากเกร็ด (สท.) โดยเริ่มแรกก่อนหน้าโครงการ “อุ้มหมาไปหาหมอ” มีโครงการ “อุ้มหมอไปหาหมา” เกิดขึ้นมาก่อนที่ควบคู่กัน แต่เราก็กลัวกระแสเจ้าหน้าที่คุณหมอเขาที่เป็นบุคลากรอันทรงเกียรติ มีความรู้ จู่ๆ จะมาอุ้มเขาไปหาหมาก็ยังไงอยู่ ก็ลดโทนลงเป็นอุ้มหมาไปหาหมอขึ้นป้ายผลงานแทน”

"โครงการนี้ทำกันมาราวๆ 6-7 ปีแล้ว เหตุจากเราเห็นปัญหาลูกบ้านในช่วงเป็น สท. สมัยแรก ทางเทศบาลมีโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สุนัขฟรีตามสถานที่ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านเป็นสุภาพสตรีและก็คนแก่มีอายุเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถอุ้มหมามาได้เพราะตัวใหญ่บ้าง บางทีไม่มีรถบ้าง และที่สำคัญบางที่สุนัขดุ อุ้มมาอยู่รวมกันในที่เดียวกันมันก็กัดกัน

เราเห็นก็คิดว่าจะทำอย่างไรดี ก็เลยกลายมาเป็นโครงการ “อุ้มหมอไปหาหมา” พาเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนไปหาถึงบ้านเลย และก็มีหลายโครงการไม่ใช่โครงการนี้โครงการเดียว” 

อดีตสจ.ทองใบยอมรับว่า มีเสียงติติงในเรื่องนี้เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่พี่น้องชาวจังหวัดนนทบุรีเขาจะทราบและเข้าใจเรื่องโครงการ

ทองใบ กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งเป็น สท.นครปากเกร็ด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก็มักจัดทำโครงการในช่วงวันหยุดและวันสำคัญต่างๆเป็นประจำ อาทิ โครงการฝึกอาชีพสอนทำอาชีพต่างๆ ฟรีแก่ทุกๆ คนที่สนใจ เช่น น้ำเต้าหู้ ขนมครกชาววัง ปาท่องโก๋ทอด ฯลฯ โครงการธงฟ้าไข่ราคาถูก ไข่เบอร์ 2 ราคา 2 บาท โครงการขับรถตุ๊กตุ๊กรับส่งฟรีแก่พี่น้องชาววัดกู้ โครงการตัดผมฟรีตลอดปีทำดีตลอดไป บริการตัดผมฟรีให้กับผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการทุพพลภาพ

“ส่วนใหญ่คนจะรู้จักโครงการ “หวยแดกแลกไข่” และ “หวยแดกต้มกินได้” ที่เราให้ชาวบ้านเอาลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัลมาแลกไข่ไก่ได้ฟรี 1 ใบกับ 1 ฟอง และก็ที่เราไปทำทหารนักบุญแต่งตัวเป็นทหารเป็นซานตาครอส ซึ่งมันอาจจะเกิดจากโครงการที่เราตั้งชื่อแปลกเพื่อให้คนได้สนใจในโครงการเรา เพราะเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชนพื้นฐาน โครงการต่างๆ มันเกิดจากจิตเราคิดดีและต้องการที่จะให้คนเข้ามาเห็นความสำคัญในทันทีแบบปะฉะดะ ก็เลยเกิดโครงการชื่อแปลกๆ ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อตอบแทนพี่น้องที่ไว้วางใจเลือกเราเข้ามาทำงาน อะไรช่วยเหลือหรือบรรเทาดูแลได้เราก็ทำหมด”

อดีตสจ.บอกอีกว่าป้ายหาเสียงที่ไม่ได้มีแค่เวอร์ชั่น “อุ้มหมาไปหาหมอ” เพียงเวอร์ชั่นเดียว หากแต่มี 6-7 เวอร์ชั่นด้วยกัน ซึ่งตลอดเส้นถนนแจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ สังเกตให้ดีจะพบป้ายรูปภาพเขาหยอดขนมครกบ้าง ตัดผมบ้าง หรือกระทั่งขับรถตุ๊กตุ๊กบ้างก็มี 

"สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ ไม่ได้ขึ้นป้ายเพื่อคุยเรื่องผลงาน แต่จากประสบการณ์ของการทำงานเคียงข้างพี่น้องประชาชนไปงานศพจนได้ฉายาเจ้าพ่อ1,000 ศพ เรามักจะพูดถึงคุณงามความดีกันตอนเสียชีวิตไปแล้วในงานช่วง 4-5 โมงเย็น พูดเป็นชั่วโมงเอ่ยถึงคุณงามความดีตลอดเวลา ซึ่งมันไม่เกิดประโยชน์แล้ว ฉะนั้นเราควรให้กำลังใจกันพูดถึงความดีที่เราทำเวลาที่เรามีชีวิตอยู่ คนทำจะได้มีกำลังใจและได้รับการส่งเสริม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามที่เราทำหากเป็นเรื่องที่ดีๆ แม้เรื่องเล็กๆ ก็ช่วยสังคมให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น"  อดีตสจ. ทองใบ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับ ทองใบ เสริฐสอน เดิมเป็นอดีตนายทหารยศสิบเอกสังกัดกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองเมื่ออายุ 26 ปี ในตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ล้มลุกคลุกคลานอยู่นานจนกระทั่งอายุ 35 ช่วงราวปี 2548 จึงได้รับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งเป็นตำแหน่งแรกทางการเมือง ดำรงตำแหน่ง 1 สมัย ก่อนจะลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและดำรงตำแหน่งได้ถึง 3 สมัยซ้อน