posttoday

ศาลให้ประกัน"เดชอุดม" น้องอดีตเมียเสกโลโซ หลังยื่นหลักทรัพย์3.7แสน

28 สิงหาคม 2561

ศาลอนุญาตให้ประกัน "เดชอุดม" น้องกานต์ วิภากร หลังยื่นหลักทรัพย์ 3.7 แสนบาทคดียาเสพติด พี่สาวมองคดีเป็นเรื่องเล็ก

ศาลอนุญาตให้ประกัน "เดชอุดม" น้องกานต์ วิภากร หลังยื่นหลักทรัพย์ 3.7 แสนบาทคดียาเสพติด พี่สาวมองคดีเป็นเรื่องเล็ก

เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้คุมตัว นายเดชอุดม แสงสายทิม น้องชายของ น.ส.วิภากร หรือ กานต์ อดีตภรรยา เสกโลโซนักร้องชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก รวม 2 สำนวน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. – 8 ก.ย.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น

ท้ายคำร้องทั้งสองสำนวน พนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดียาเสพติดมีอัตราโทษสูง เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติ หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง

ขณะที่ น.ส.วิภากร ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวนายเดชอุดม ชั่วคราวระหว่างฝากขังพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 370,000 บาท โดยศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

น.ส.วิภากร เปิดเผยว่า ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวนายเดชอุดม โดยตีราคาประกัน 370,000 บาท ซึ่งนายเดชอุดมจะต้องเดินทางมารายงานตัวทุก 12 วัน

"รู้สึกดีใจที่ศาลให้ประกันตัว เพราะส่วนตัวมองว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็ก แต่ที่มีคนให้ความสนใจเพราะนายเดชอุดมเป็นน้องชายของตน"

น.ส.วิภากร กล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับน้องชายเพียงเล็กน้อยเรื่องการต่อสู้คดี ก่อนที่น้องชายจะขอตัวพักผ่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าน้องชายจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เจอหน้าน้องชาย เพราะแยกกันอยู่คนละบ้าน และได้คุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ไปแล้ว ซึ่งต่างก็รู้สึกตกใจและเสียใจ ได้แต่ขอให้สู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะพ่อซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจเป็นคนที่เข้มงวดเรื่องนี้ หากพบว่าคนในบ้านไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะไม่ช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ว่าตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และอยากให้สังคมมองถึงข้อเท็จจริงทางคดีด้วย

ขณะที่นายชุติพงศ์ บุญเกิด ทนายความของนายเดชอุดม เปิดเผยว่า เบื้องต้นเท่าที่คุยกับลูกความก็ยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดจริง แต่ไม่ได้จำหน่ายยาเสพติด ส่วนเรื่องคดีที่ถูกซัดทอดยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด จะขอรอให้ลูกความมีความพร้อมดีกว่านี้ก่อน ส่วนแนวทางการต่อสู้ก็จะพิจารณาว่ากันไปตามข้อเท็จจริง คือส่วนไหนที่กระทำผิดจริงก็จะแนะนำให้รับสารภาพ เพื่อเป็นเหตุในการบรรเทาโทษ แต่ส่วนที่ไม่ได้กระทำผิดก็ต้องว่ากันในรายละเอียด อย่างเรื่องที่พบยาเสพติดในบ้านพักก็ยังมีข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาอีก เพราะบ้านหลังดังกล่าว มักมีเพื่อนของลูกความเข้าไปพักค้างบ่อยครั้งด้วย

ภาพจากเฟซบุ๊ก Wiphakorn Karn