"รองโจ๊ก" แถลงบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางเวียดนาม รวบ 16 คนไทยเอี่ยว
"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ " แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เวียดนาม รวบ 16 คนไทยเอี่ยว สูญ 50 ล้าน
"พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ " แถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เวียดนาม รวบ 16 คนไทยเอี่ยว สูญ 50 ล้าน
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 24 ส.ค.2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น.และนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงผลการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเวียดนามได้ผู้ต้องหา 18 ราย ณ ห้องประชุมชั่วคราว สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า การเข้าจับกุมในเป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจไทย และ กองบังคับการความมั่นคงอินเตอร์เน็ตและป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หลังสืบสวนขยายผลจากข้อมูลของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังมีการหลอกลวงคนไทย จนทราบว่ามีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ ณ เมืองโฮจิมินห์ โดยตั้งมาแก๊งมาได้ประมาณ 2 เดือน และมีคนไทยหลายรายเป็นพนักงานโทรศัพท์และมีชาวไต้หวันเป็นหัวหน้าควบคุม ซึ่งบางคนมีหมายจับในไทยมานานแล้วแต่หลบหนีไม่ยอมเข้าไทย โดยมีเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติในการช่วยเหลือให้หลบหนีการจับกุม จนมาตั้งแก๊งคอลเซอร์เตอร์ใหม่ โดยพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในย่านเมืองใหม่ วินโฮมคอนโดมิเนียม เซ็นทรัลพาร์ค เมืองโฮจิมินห์ หลังสืบทราบว่าเป็นศูนย์สั่งการคอลเซ็นเตอร์ เป็นคอนโดมิเนียมหรู แยกกันอยู่หลายอาคาร รวม 4 ห้อง มีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี แบ่งออกเป็นห้อง ซึ่งมีโต๊ะพร้อมอุปกรณ์สื่อสารทั้งคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้งาน, สมุดบัญชีธนาคาร
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบโพยรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง รวมถึงบทพูดคุยระหว่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์กับเหยื่อที่กำหนดไว้ เช่น จากหน่วยปราบปรามยาเสพติด หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นก็พบคนไทย 16 คน ทำหน้าที่โทรศัพท์หาเหยื่อปลายทาง ในประเทศไทย และพบชาวไต้หวัน 2 คน คอยควบคุมและสั่งการในการหลอกลวงเหยื่อซึ่งแก๊งนี้เริ่มปฏิบัติการหลอกลวงคนไทยประมาณ 2 เดือน มีผู้เสียหายเป็นวงเงินกว่า 50 ล้านบาทและมีเหยื่อหลงกลโอนเงินรายล่าสุด กว่า 800,000 บาทในพื้นที่ สน.หัวหมาก ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดยังถูกควบคุมตัวและสอบปากคำเพิ่มเติมอยู่ที่ประเทศเวียดนาม ก่อนที่ทางการเวียดนามจะส่งตัวคนไทยทั้ง 16 คนกลับมาดำเนินคดีในไทยอีกครั้งในสัปดาห์หน้า พร้อมกับผู้ต้องหาคนไทยจากฟิลิปปินส์ ที่ทางศูนย์ฯได้ไปบุกทลายมาก่อนหน้านี้ ส่วนคนที่เป็นนายหน้าจัดหาคนไทยไปทำงาน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการนี้ต่อไป


