posttoday

ออกหมายจับ "หญิงวัย56" เปิดเพจโพสต์ข้อความบิดเบือนเรื่องเรือเหาะ

12 มิถุนายน 2561

"บิ๊กโจ๊ก" เผยตร.ออกหมายจับหญิงวัย56 พำนักในอังกฤษเปิดเพจโพสต์ข้อความบิดบือนใส่ร้ายรัฐบาล พร้อมดำเนินคดีคนส่งต่อ เผยมีผู้สมัครใจมอบตัว 12 คน

"บิ๊กโจ๊ก" เผยตร.ออกหมายจับหญิงวัย56 พำนักในอังกฤษเปิดเพจโพสต์ข้อความบิดบือนใส่ร้ายรัฐบาล พร้อมดำเนินคดีคนส่งต่อ เผยมีผู้สมัครใจมอบตัว 12 คน

เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ท่องเที่ยว พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปอท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ.(191) พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบก.ทท.2 พ.ต.อ.สยาม บุญสม รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 บก.ปอท. ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินคดีกับผู้ต้องหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าตามที่มีบุคคลนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอ์อันเป็นเท็จ โดยได้มีการโพสต์บทความบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลในเพจเฟซบุ๊ก "KonthaiUk" โดยพาดหัวข่าวว่า “เรือเหาะ...ก็ซื้อมาซ่อม ยังจะซื้อดาวเทียม 91,200 ล้านมาแ...กอีก.. จะยอมมันอีกมั้ย!” พร้อมการนำภาพเรือเหาะ ดาวเทียม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรมว.กลาโหม มาตัดต่อรวมกัน

นอกจากนี้ยังมีการตัดต่อภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำมาเป็นสื่อกระจายแก่บุคคลต่าง ๆ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้รับสื่อเกิดความตื่นตระหนก และหลงเชื่อได้ว่าข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลจริง

รองผบช.ทท. กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนทราบว่าเพจดังกล่าวลงทะเบียนใช้ในชื่อบัญชี "Watana Ebbage" จากการสืบสวนทราบว่าคือ นางวัฒนา เอ็บเบจช์ อายุ 56 ปี มีถิ่นพักอาศัยอยู่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวในความผิดฐาน “นำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

นอกจากนี้ยังได้มีการดำเนินคดีกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความข่าวสารอันเป็นเท็จในเฟซบุ๊กอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ จำนวนทั้งสิ้น 7 ราย และอยู่ระหว่างออกหมายเรียกกว่า 20 ราย โดยในวันนี้มีผู้สมัครใจมามอบตัว 12 คน โดยมีความผิดฐาน “เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ต่อการรักษาความมั่งคงปลอดภัยของประเทศหรือความมั่งคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” โทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ