posttoday

ตั้งกระทรวงใหม่"วิจัยและอุดมศึกษา"สร้างนวัตกรรมสู่เวทีโลก

19 พฤษภาคม 2561

รมว.วิทยาศาสตร์ฯแจงการควบรวมกับสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เกิดใหม่ เป็นกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา มุ่งสร้างนวัตกรรมสู่เวทีโลก

รมว.วิทยาศาสตร์ฯแจงการควบรวมกับสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา เกิดใหม่ เป็นกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา มุ่งสร้างนวัตกรรมสู่เวทีโลก

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า การควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ากับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ เกิดจากความจำเป็นที่ต้องขับเคลื่อนประเทศโดยใช้เทคโนโลยี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในขณะที่ต่างประเทศได้เตรียมเรื่องนี้มานานแล้ว เช่นประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน ใช้วิธีควบรวมแบบนี้ทำให้เกิดการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ รัฐบาลนำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งหวังปฏิรูปประเทศ ด้วยการสร้าง เสริม และซ่อม ดังนั้นการควบจึงเป็นการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 เป็นไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งต้องลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์เป็นหลัก

ด้านเทคโนโลยี ต้องมุ่งเน้นไปสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ที่เกิดจากวิทยาศาสตร์เชิงลึกด้วยการเริ่มจากกระบวนการศึกษา จึงต้องทำให้นักศึกษา มีความพร้อมหลังจากเรียนจบออกมาแล้วมีความสามารถต่อยอดเทคโนโลยีได้ทันที

อย่างไรก็ตาม กระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา เป็นการตั้งกระทรวงขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุผล 4 ประการคือ 1.เตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ให้ก้าวทันโลกอนาคตที่ตอบโจทย์อาชีพของคนไทยต่อจากนี้ 2.การเตรียมผู้ประกอบการไทย ให้เป็นกองทัพทางเศรษฐกิจ ใช้ความลึกซึ้งทางเทคโนโลยีมากขึ้น ทุกวันนี้มีผู้ประกอบการกว่า 5,000 ราย 3.เตรียมเกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยี เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ และ4. นำส่วนประกอบทั้งหมดมาควบคุมเพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในอนาคต ทั้งหมดประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุด

นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า กระทรวงศึกษา เป็นกระทรวงที่ใหญ่มาก และต้องยอมรับว่าเขาเองก็มีปัญหามากเช่นกัน จึงอยากแยกเรื่องของเทคโนโลยีในการเรียนรู้ระดับอุดมศึกษาออกมาทำให้เกิดทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีทิศทางด้านเทคโนโลยีที่ชัดเจน รวมถึงการสร้างคนโดยการให้ทุนแต่สุดท้ายกลายเป็นเบี้ยหัวแตกไปหมด ทุนวิจัยก็กลายเป็นเบี้ยหัวแตกด้วยเช่นกัน อีกทั้งทำงานซ้ำซ้อนกัน ดังนั้นเมื่อนำโครงสร้างทั้งสองแห่งนี้มารวมกันจะเกิดการปฏิรูปครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม

“ต่อจากนี้เราไม่สามารถแยกคนออกจากเทคโนโลยีได้แล้ว ดังนั้นต้องเริ่มจากการสร้างคนให้พร้อมกับโลกอนาคต สามารถประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการควบรวมนี้จะตอบโจทย์อนาคตอย่างแท้จริง ไม่ใช่การยุบเพื่อให้กระทรวงวิทยาศาสตร์หายไป แต่เปลี่ยนเป็นการจัดรูปแบบให้ชัดเจนมากขึ้น จึงเป็นที่มาของกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา” นายสุวิทย์ กล่าว

สำหรับรูปแบบการทำงาน แม้จะยังไม่ได้สรุปอย่างชัดเจน แต่เบื้องต้นจะต้องเน้นเรื่องงานวิจัย เพื่อให้มีขีดความสามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ อีกส่วนหนึ่งคือหน่วยที่ให้เงินทุนด้านการวิจัย แต่ยังต้องมีการหารือเพื่อกำหนดรูปแบบทำงานให้สอดคล้องกันต่อไป โดยอาจจะแบ่ง กลุ่มงานวางแผนทิศทางการวิจัยเพื่ออนาคต คุมงบประมาณกองทุนต่าง และอาจทำเรื่องการสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศ กลุ่มถัดมาคือสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ เช่นเรื่องดาราศาสตร์ นิวเคลียร์ และกลุ่มมหาวิยาลัยวิจัย สร้างสตาร์ทอัพใหม่ มุ่งพัฒนาพื้นที่ต่างๆในประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่จะพัฒนาคนให้กลับไปสร้างเสริมชุมชนแต่ละแห่ง จะเป็นการสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศด้วย