posttoday

"พระธรรมกิตติ"เมธีรับคดีเงินทอนวัดอาจบานปลาย เผยศิษย์ไม่พอใจพระชั้นผู้ใหญ่ถูกกล่าวหา

20 เมษายน 2561

"พระธรรมกิตติเมธี" หวั่นคดีทุจริตเงินทอนวัดสร้างความขัดแย้ง หลังลูกศิษย์ไม่พอใจพระชั้นผู้ใหญ่ถูกกล่าวหามีเอี่ยว

"พระธรรมกิตติเมธี" หวั่นคดีทุจริตเงินทอนวัดสร้างความขัดแย้ง หลังลูกศิษย์ไม่พอใจพระชั้นผู้ใหญ่ถูกกล่าวหามีเอี่ยว

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกหลัง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษคดีเงินทอนวัด ล็อต 3 ต่อ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปรากฏ รายชื่อพระผู้ใหญ่ 5 รูป มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม และแผนกบาลี และงบเผยแผ่ศาสนา

ทั้งนี้ พระชั้นผู้ใหญ่ 3 รูป ได้เดินทางมา อาคารหอประชุมกรรมการมหาเถรสมาคม จากนั้นไม่นาน พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เดินทางมาถึงเช่นกัน แต่ไม่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร ในฐานะประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จะแถลงกรณีที่พระชั้นผู้ใหญ่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเพื่อแสดงออกถึงการป้องกันพระพุทธศาสนา ที่วัดราชาธิวาสวิหาร ถนนสามเสน

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงก็ได้รับการปฏิเสธจาก พระธรรมกิตติเมธี ว่าไม่ได้นัดสื่อมวลชนมาแถลงข่าวเพราะส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และไม่ได้เกี่ยวข้องงบประมาณอยู่แล้ว

พระธรรมกิตติเมธี กล่าวว่า การดำเนินคดีกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่จะถูกต้องหรือไม่นั้น จะต้องดูในระเบียบของสำนักงานพระพุทธศาสนาว่า สามารถทำได้หรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไร ซึ่งคงมีช่องทางที่ให้อำนาจ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา ให้ทำได้ ส่วนจะส่งผลให้ พระสงฆ์ กับฆราวาส เกิดความขัดแย้งกันได้หรือไม่นั้น มองว่า อาจจะเป็นไปได้ เพราะลูกศิษย์ของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ 3 ท่าน เกิดความไม่พอใจแล้ว และหากเหตุการณ์จะบานปลายจนเกิดความรุนแรง ก็คงต้องยอมรับว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่หน้าที่ของทุกคน ก็ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา

"วัด สามารถนำเงินที่ขออนุมัติงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนามาใช้ไม่ตรงโครงการที่ขออนุมัติได้ หากนำมาใช้ทำประโยชน์ในการบำรุงศาสนา แต่จะต้องนำมาคืน หากไม่นำมาคืนอาจจะเกิดข้อบกพร่องบ้าง แต่ข้อบกพร่องไม่ได้หมายความถึง การโกง เพราะเป็นการทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาเหมือนกัน แต่แค่คนละโครงการ"

"สำหรับการประชุมมหาเถรสมาคมในวันนี้ มองว่า ขึ้นอยู่กับข้อมูลของที่ประชุมที่จะเสนอเข้าไป และหากสามารถแก้ไขกฎระเบียบของสำนักพระพุทธศาสนา ก็มีการเสนอให้มหาเถรสมาคม ไม่ต้องรับเงิน จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และให้รับเพียงเงินบริจาคเท่านั้น"พระธรรมกิตติเมธี กล่าว

ภาพ www.fm91bkk.com