posttoday

ม.มหาสารคามแจงผลสอบอาจารย์ไม่ได้สั่งกราบเท้าจนท. "น้องแบม"สุดคาใจ

19 มีนาคม 2561

ม.มหาสารคามแถลงผลสอบระบุ "อาจารย์" ไม่ได้สั่งนศ.กราบเท้าเจ้าหน้าที่ ส่วนการทุบหลังทำจริง เป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณ ด้านน้องแบมคาใจ

ม.มหาสารคามแถลงผลสอบระบุ "อาจารย์" ไม่ได้สั่งนศ.กราบเท้าเจ้าหน้าที่ ส่วนการทุบหลังทำจริง เป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณ ด้านน้องแบมคาใจ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ผศ.วิรัติ ปานศิลา ประธานสภาคณาจารย์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้แถลงผลการตรวจสอบอาจารย์หัวหน้าภาควิชา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หลังจากที่ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตชั้นปีที่ 4 ได้ร้องเรียนว่าถูกอาจารย์สั่งให้กราบเจ้าหน้าที่ที่กระทำการทุจริต และอาจารย์ได้ทุบหลังน.ส.ปณิดาขณะเรียกตัวเข้าไปพูดคุย ซึ่งต่อมาสภาคณาจารย์ได้ยื่นหนังสือต่อมหาวิทยาลัยให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงสรุปได้ดังนี้

1.ไม่พบว่ามีอาจารย์ของหลักสูตรปกปิดการปลอมแปลงเอกสารเบิกเงิน

2. ไม่ปรากฏว่ามีอาจารย์ห้ามไม่ให้นิสิตแจ้งความ และไม่ปรากฏว่าได้มีการขอร้องให้นิสิตพาไปแจ้งความ แต่มีการนำนิสิตไปไกล่เกลี่ยและมีการก้มกราบจริง แต่อาจารย์ไม่ได้สั่งให้กราบเท้า โดยการไกล่เกลี่ยมีทั้งหมด 4 คน กราบในส่วนต่าง ๆ เช่น กราบตัก มีเพียงน.ส.ปณิดา คนเดียวที่กราบเท้า มีนิสิต 2 คนร้องไห้ แต่ไม่ทราบเหตุผล

3.มีการใช้มือฟาดนิสิตจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวนอาจารย์ว่าด้วยเรื่องจรรยาบรรณ คาดว่าจะทราบผลภายใน 30 วัน หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกิน 60 วัน

4. การเรียกนิสิตมาสอบสวนและกระบวนการสอบสวนโดยคณะไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิต เนื่องจาก ป.ป.ท. และมหาวิทยาลัย ต้องการข้อมูลจากนิสิต และได้มีการบันทึกเสียง เพื่อส่งให้กับมหาวิทยาลัย โดยมีการแจ้งให้นิสิตงดนำเครื่องมือสื่อสารเข้าไประหว่างทำการสอบสวน

5.เหตุใดต้องมีการห้ามแชร์ข่าว และการห้ามนิสิตแชร์ข่าว แต่ให้นิสิตบางกลุ่มโพสต์ข้อความในเชิงโจมตีนิสิต เป็นการละเมิดสิทธิของนิสิตหรือไม่ และเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไม่ ข้อเท็จจริง คือ

ไม่ได้มีการห้ามแชร์ข่าว แต่เป็นการข้อความร่วมมือ เนื่องจากมีการประชุมของภาควิชา โดยมีการขอความร่วมมือไม่ให้แชร์ข่าวสารและทาง ป.ป.ท.ได้ขอความร่วมมือ ในการงดให้รายละเอียด ข้อมูล ข่าวสาร ซึ่งอาจเป็นการเข้าใจผิดของแต่ละคน

6.ภายหลังจากเกิดปัญหาได้ให้นิสิตเปลี่ยนพื้นที่การทำวิจัย จากเดิมที่ จ.ขอนแก่น เป็นพื้นที่อื่น ซึ่งอาจารย์รับปากในเรื่องของการดูแลพัฒนานิพนธ์ของนิสิต ซึ่งการตัดเกรดก็ทำให้รูปแบบของคณะกรรมการตามระเบียบของคณะ

ผศ.วิรัติ กล่าวว่า การสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้ระบุว่าใครถูกใครผิด โดยผลการสอบบอกเพียงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการสอบจรรยาบรรณ

ด้าน น.ส.ปณิดา กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกคาใจผลการตรวจสอบในหลายประเด็น โดยบางประเด็นเหมือนเป็นการปัดให้พ้นทาง ซึ่งหลังจากนี้จะขอนำผลการตรวจสอบไปพิจารณาก่อนว่าจะร้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่