posttoday

"กลุ่มลาขาดควันยาสูบ" แนะโรงงานยาสูบผลิตบุหรี่ไฟฟ้าขาย ทางรอดถังเเตก

05 มีนาคม 2561

"กลุ่มลาขาดควันยาสูบ" แนะนำโรงงานยาสูบผลิตบุหรี่ไฟฟ้าขาย คาดมูลค่าการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท

"กลุ่มลาขาดควันยาสูบ" แนะนำโรงงานยาสูบผลิตบุหรี่ไฟฟ้าขาย คาดมูลค่าการตลาดสูงถึง 6,000 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. กรณี น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ เปิดเผยว่า โรงงานยาสูบเตรียมเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อขอกู้เงินมาใช้ดำเนินการเสริมสภาพคล่อง โดยนำมาจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับพนักงาน ภายหลังผลกระทบจากภาษียาสูบใหม่ ทำให้โรงงานยาสูบไม่มีกำไร

นายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนกลุ่มลาขาดควันยาสูบ เเละผู้สนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายในประเทศไทย เเสดงความคิดเห็นกับโพสต์ทูเดย์ว่า ถึงเวลาที่โรงงานยาสูบจะหันมาผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างบุหรี่ไฟฟ้า เพราะผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มลดการใช้งานบุหรี่แบบเผาไหม้เดิมเเละหันมาใช้สิ่งที่ปลอดภัยกว่า

สำหรับประเด็นข้อพิพาทเเละข้อถกเถียงระหว่างผู้สนับสนุนเเละผู้ต่อต้านบุหรี่ไฟฟ้าในเมืองไทย มาริษ ยืนยันอีกครั้งว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษต่ำกว่าบุหรี่ปกติ โดยมีงานวิจัยจำนวนมากรองรับ เเละตลาดทั่วโลกยังมุ่งไปที่การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด (Harm Reduction)

เขาเคยเเสดงความคิดเห็นว่า มูลค่าการตลาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเมืองไทยนั้นอาจสูงถึง 6,000 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ใช้ที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนรายในปัจจุบัน ซึ่งหากบุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายจะทำให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างถูกต้อง รวมถึงสร้างอาชีพเเละรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ รวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ด้วย

ทั้งนี้บุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ผู้ขายหรือผู้ให้บริการมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ฝ่าผืนเป็นผู้ผลิต ผู้สั่ง ผู้นำเข้าเพื่อการขาย จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ