เหยื่อแชร์ลูกโซ่ทองคำร้อง"ดีเอสไอ" ถูกหลอกลงทุนเสียหายกว่า 200 ล้าน

กลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 คน เข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอหลังถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ทองคำมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กลุ่มผู้เสียหาย กว่า 30 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ หลังถูกหลอกร่วมลงทุนแชร์ทองคำ มูลค่าความเสียหาย 200 ล้านบาท โดยมี ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผอ.กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับเรื่อง

ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า สืบเนื่องเมื่อช่วงประมาณ ต.ค.60 ที่ผ่านมา  มีบุคคลทักเฟซบุ๊กมาหาตน ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชายที่ตนรู้จักเพราะเป็นนักดนตรีในวงการหมอลำด้วยกัน ชักชวนให้ร่วมลงทุนขายทองคำ ค่าสมัครเริ่มต้นลงทุน 18,500 บาทหรือเท่ากับทองคำหนัก 1 บาท ปันผลทุก 10 วัน ครั้งละ 1,200-1,500 บาท โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนร้านทองแห่งหนึ่งทำหน้าที่ซื้อมาขายไป รวมถึง ยังโพสต์เฟซบุ๊กภาพนำเงินสดมาซื้อรถยนต์และโพสต์โชว์สลิปเงินโอนจำนวนมาก เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือ

ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า สำหรับตนเริ่มต้นลงทุน 18,500 บาท ซึ่งหลังจากสมัครสมาชิกแล้วก็ได้รับเงินปันผลจริงตามที่กำหนด แต่คนร้ายอ้างว่าต้องหาสมาชิกมาอีกเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มจำนวนยอดทองคำและจะได้เงินส่วนต่างเพิ่มเติม กระทั่ง ประมาณปลายปี 60 ที่ผ่านมา เริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอกเนื่องจากคนร้ายบอกว่าจะหยุดทำการช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.60 - 4 ม.ค.61 โดยหลังจากเปิดทำการแล้ว คนร้ายอ้างว่าร้านทองที่เป็นตัวแทนจะไม่มีการซื้อขายทองอีกต่อไป และไม่สามารถติดต่อได้

"ต่อมา กลุ่มผู้เสียหายจึงนัดรวมตัวกันไปที่บ้านพักบุคคลดังกล่าว ทำให้ทราบว่าคนร้ายเป็นสองสามีภรรยา ซึ่งทางผู้ชายเป็นนักดนตรีในวงการหมอลำ ส่วนผู้หญิงเป็นอดีตพยาบาล พร้อมขอชดใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาทต่อรายแลกกับยินยอมไม่เอาความทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยมีคนทั้งรับและไม่รับเงินจำนวนดังกล่าว ทำให้วันนี้ กลุ่มของพวกดิฉัน เดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษและต้องการเงินลงทุนคืนจากคนร้าย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวได้เสียหาย 4 กว่าล้านบาท" ตัวแทนผู้เสียหายกล่าว

ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้น หลังรับเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้วจะนำเข้าตรวจสอบ ก่อนเสนอ อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ว่ารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ หากไม่รับ ดีเอสไอ จะส่งเรื่องให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อให้เสร็จสิ้น เพราะทราบว่ากลุ่มผู้เสียหาย เคยแจ้งความเอาไว้แล้ว