posttoday

"ชูวิทย์"แฉ "กำพล" เหมาเด็กมาค้าประเวณี ดีเอสไอเร่งล่าตัว

22 มกราคม 2561

ชูวิทย์มอบหลักฐานให้ดีเอสไอ ชี้ "เสี่ยกำพล" เป็นเจ้าของวิคตอเรีย ซีเครทตัวจริง แฉใช้วิธีปล่อยเงินกู้ให้พ่อแม่แล้วเอาลูกสาวมาใช้หนี้

ชูวิทย์มอบหลักฐานให้ดีเอสไอ ชี้ "เสี่ยกำพล" เป็นเจ้าของวิคตอเรีย ซีเครทตัวจริง แฉใช้วิธีปล่อยเงินกู้ให้พ่อแม่แล้วเอาลูกสาวมาใช้หนี้

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อพบ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าชุดทำคดีสถาบันเทิงวิคตอเรีย ซีเครท หลังทราบว่าจะมีการแถลงข่าวในเวลา 11.00 น. ก่อนนายชูวิทย์ จะมีการแท็บเล็ต มาเปิดให้ผู้สื่อข่าวดูภาพหลักฐานว่านายกำพลคือเจ้าของอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท มาให้ดู บริเวณประตูทางเข้าอาคารดีเอสไอ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นำรายชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท มาให้ดีเอสไอ โดยเฉพาะหลักฐานรูปภาพที่แสดงให้เห็นว่า นายกำพล เสี่ยกำพล เป็นเจ้าขอตัวจริง ไม่ใช่น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ภาพในอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท จะเห็นภาพ นายกำพล พร้อมครอบครัวนั่งอยู่ และมีพนักงานไหว้ หากคนไม่ใช่เจ้าของพนักงานจะไหว้ขนาดนี้หรือ

"ที่ผมออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจและดีเอสไอเพราะนายกำพล นำเด็กสาวอายุ 12 -18 ปี มาค้าประเวณี ซึ่งเด็กอายุ 12 ปี ถ้าลบเครื่องสำอางออก มันก็หน้าตาเด็กๆ ผมเห็นแล้วคิดถึงลูกสาวเลย ไม่น่าทำมาหากินแบบนี้เลย ถึงผมจะเคยทำอาบอบนวด แต่ที่ทำเพราะผมเป็นคนชอบเที่ยว แต่ไม่เคยเอาเด็กสาวมาทำแบบนี้

"นายกำพลจะใช้วิธีเหมาเด็ก หรือตกเขียว โดยให้ปล่อยเงินกู้พ่อแม่เด็กที่อยู่ตามต่างจังหวัด และให้นำลูกสาวมาใช้หนี้คืน โดยไปรับตัวเด็กๆครั้งละหลายๆคนแบบเหมายกเข่ง ลูกน้องนายกำพลชื่อ ป๋ากบ กับนายติ๊ก เป็นเอเยนต์เหมาเด็กมา โดยมีการวางแผนจะเปลี่ยนให้นายติ๊กเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ไม่ทันโดนบุกทลายเสียก่อน การทำแบบนี้เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรม โดยนายกำพล รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เยอะมาก เลยกลัวเรื่องจะเงียบจึงออกมาให้ข้อมูล ผู้ใหญ่ในบ้านเราที่เชียร์นายกำพลระวังตัวกันไว้นะครับ เพราะหนุนคนผิด อยากบอกว่านายกำพลหนีไปเถอะครับ หากไม่หนีถูกดำเนินคดียาวแน่" นายชูวิทย์ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม ได้ให้นโยบายว่า ให้ดำเนินคดีเต็มที่ เป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ กำลังตรวจสอบสำนวน เอกสาร และหลักฐานทั้งหมดที่รับมอบจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะตรวจสอบว่ามีการสอบปากคำ พยาน ผู้ต้องหา ครบถ้วนหรือไม่ และหลักฐานในการออกหมายจับผู้ต้องหานั้นสมบูรณ์ตามกระบวนการหรือไม่ เนื่องจากสำนวนคดีกว่า 3,500 แผ่น นอกจากนี้จะตรวจสอบข้มูลที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว มาพิจารณาหากเป็นประโยชน์

"ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา และกลุ่มรายชื่อเจ้าหน้าที่ ได้ประสานสำนักงาน ปปง. และป.ป.ท. ดำเนินการแล้ว ส่วนเรื่องตามจับกุมตัวนายกำพล และผู้ต้องหารายอื่นๆ ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง แต่ยังไม่พบว่ามีการหลบหนีออกนอกประเทศทางช่องทางปกติ หลังจากนี้จะมีการเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบุกจับกุมวิคตอเรีย อาทิ ฝ่ายปกครอง กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ พนักงานอัยการ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในคณะพนักงานสอบสวน และจะมีการประชุมหารือกันตลอด หากมีอะไรคืบหน้าจะมีการแถลงข่าวให้ทราบทันที" พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ เผยว่า ส่วนเรื่องประเด็นจะเชิญตัวนายชูวิทย์มาให้เป็นพยาน เพื่อข้อมูลกับเจ้าที่หรือไม่นั้น ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่า มีประโยชน์มากน้อยต่อคดีนี้เพียงใด