posttoday

ญาติเหยื่อเมาขับ5ศพร้องตรวจสอบอัยการจังหวัดไม่ยื่นอุทธรณ์คดี

27 พฤศจิกายน 2560

ญาติเหยื่อเมาแล้วขับดับ5ศพ ร้องอัยการสูงสุด ตรวจสอบอัยการจังหวัดไม่ยื่นอุทธรณ์ ทำคดีสิ้นสุด โดยไม่ติดต่อแจ้งสิทธิญาติผู้ตาย

ญาติเหยื่อเมาแล้วขับดับ5ศพ ร้องอัยการสูงสุด ตรวจสอบอัยการจังหวัดไม่ยื่นอุทธรณ์ ทำคดีสิ้นสุด โดยไม่ติดต่อแจ้งสิทธิญาติผู้ตาย

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.  ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์  นายกสมาคมควบคุมปัจจัยเสี่ยงภาคใต้  อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง  นำนางกานต์รวีซุ่นสั้น  ภรรยาดาบตำรวจเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดตรัง  และตัวแทนครอบครัวเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เสียชีวิต 5 ศพ   และเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดตรัง  เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต และเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึง  นายเข็มชัย  ชุติวงศ์  อัยการสูงสุด  เพื่อให้ตรวจสอบกรณี  อัยการจังหวัดตรังที่รับผิดชอบคดีคนเมาแล้วขับ ชนตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเสียชีวิต 5 ศพ  แต่ไม่แจ้งสิทธิให้ครอบครัวผู้เสียหายในการยื่นอุทธรณ์  ส่งผลให้คำพิพากษาสิ้นสุดลง จำคุก 4 ปี ปรับ 3,400 บาท พร้อมข้อเสนอเพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของผู้เสียหายโดยเฉพาะที่เป็นชาวบ้าน ไม่มีความรู้  และเรียกร้องให้มีการยกระดับกระบวนการยุติธรรม  กรณีเมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่ประมาท ต้องเป็นเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต

นายสายัณห์  กล่าวว่า อยากให้มีการตรวจสอบว่าเหตุใดอัยการจังหวัดตรังไม่อุธรณ์ และไม่มีการติดต่อหรือแจ้งให้ผู้เสียหายและญาติทราบ หรือมีส่วนรับรู้ความเป็นไปในคดี ทั้งที่เป็นคดีสะเทือนขวัญ มีคนตาย 5 ศพ ซึ่งสังคมให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะชาวตรังที่ถือให้ความสำคัญมาก แต่ผู้สูญเสียต้องมารับทราบตอนคดีหมดอายุความ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์ เขาไม่ได้มีส่วนรับรู้  ร่วมตัดสินใจ ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้กระทำผิดหรือไม่  ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสให้ได้รับความเป็นธรรม ในคดีเมาแล้วขับ พบว่า มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากการพูดคุยกับผู้เสียหายเขาเกรงว่าคดีอาญาเมื่อผู้ทำผิดรับโทษน้อย   จะส่งผลต่อคดีแพ่งตามมา จึงอยากฝากให้เคสนี้เป็นกรณีตัวอย่างกับสังคม

ทั้งนี้เครือข่ายได้แสดงจุดยืนและมีข้อเสนอถึงท่านอัยการสูงสุด ดังนี้ 

1. ขอทราบเหตุผล  ที่อัยการจังหวัดตรังไม่แจ้งสิทธิและผลคดีให้ผู้เสียหายทราบ ทั้งยังไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลสูงเพื่อพิจารณาคดี  มิได้ประสานงานกับผู้เสียหายให้มีส่วนร่วมตามสิทธิอันพึงมี   

2. กระบวนการยุติธรรมควรออกแบบวิธีการทำให้ผู้เสียหาย  ได้เข้าถึงสิทธิอันพึงมีพึงได้ตามกฎหมาย  ช่องทางการติดต่อทั้งในระดับพื้นที่และส่วนกลาง    เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียหายได้รับรู้และสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ  ในขั้นตอนต่างๆตามกฎหมาย โดยเฉพาะชาวบ้าน  คนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของผู้เสียหาย   

3.เครือข่ายฯเห็นว่าควรถึงเวลาแล้วที่จำเป็นต้องยกระดับ  กระบวนการยุติธรรมในปัญหาเมาแล้วขับ  ให้เป็นเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตซึ่งย่อมเล็งเห็นผล  มิใช่แค่ประมาท  ซึ่งจะส่งผลต่อบทลงโทษที่หนักขึ้นแข็งแรงขึ้น  มิเช่นนั้นแล้วจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากคนเมาแล้วขับ  มูลค่าความเสียหายต่างๆจะไม่มีทางลดลงเลย  เป้าหมายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนจะไม่มีทางบรรลุได้เลย

4. เครือข่ายฯขอให้กำลังใจผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เมาแล้วขับทั่วประเทศ  และขอให้กำลังใจทุกฝ่ายที่พยายามแก้ไขปัญหา และพร้อมร่วมสนับสนุนภารกิจเพื่อลดปัญหาเมาแล้วขับให้ลดลงอย่างเต็มที่

ด้าน นางกานต์รวี  ซุ่นสั้น ภรรยาดาบตำรวจเหยื่อเมาแล้วขับ จังหวัดตรัง กล่าวว่า เพราะเหตุใดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้เสียเสียชีวิตจึงไม่ได้รับการติดต่อ หรือมีส่วนร่วมอะไรเลยเกี่ยวกับคดีนี้ ผลที่ออกมาเราทำอะไรไม่ได้เลย เพราะคดีสิ้นสุดแล้ว หากกระบวนการยุติธรรมมีช่องว่าง เชื่อว่าปัญหาเมาแล้วขับไม่ลดลงอย่างแน่นอน กรณีนี้จะเกิดบนท้องถนนเพิ่มขึ้น อยากเรียกร้องความยุติธรรมให้สามี และผู้สูญเสียด้วยกัน  เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานกับสังคม ขนาดคดีอาญายังมีโทษจำคุกแค่4ปี ปรับไม่กี่พันบาท อีกไม่นานก็ขอลดโทษได้อีก ซึ่งผู้กระทำผิดรวมถึงญาติพี่น้องเขาก็ไม่ได้ติดต่อแม้แต่คำว่าขอโทษเสียใจยังไม่มี  ไม่เคยมางานศพสามีและผู้ตายทุกคน ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น  หากพ้นโทษใครจะรับรองว่าเขาจะไม่ทำอีก ทุกวันนี้มีน้องกู้ภัยอีกคนเป็นนักศึกษารามคำแหง ปี 2 ได้รับบาดเจ็บทางสมองและดามเหล็กระบบขับถ่ายมีปัญหา ต้องหยุดเรียน ยังไม่ได้รับการเยียวยาเท่าที่ควร 

“ยังเสียขวัญ เวลาขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน เพราะจะผ่านถนนเส้นนั้นตลอด ภาพสามีถูกชนติดตาอยู่ทุกวัน คนเมาแล้วขับสร้างความเสียหาย ทำลายครอบครัวมานักต่อนัก หากมาตรการไม่จริงจังจะเกิดซ้ำ ทั้งนี้ตนและผู้เสียหายด้วยกันอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารเพื่อยื่นฟ้องคดีแพ่งต่อไป  และเร็วนี้เครือข่ายจะไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม  เพื่อให้มีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษคนเมาแล้วขับ  ไม่ใช่แค่ฐานประมาทแต่คือเจตนาซึ่งย่อมเล็งเห็นผล  มิเช่นนั้นแล้วปัญหาเมาแล้วขับซึ่งสร้างความสูญเสียมหาศาลต่อปีก็จะพายเรือวนในอ่าง ไปไม่ถึงไหน  เป็นปัญหาซ้ำซากที่ต้องผ่าตัดใหญ่และยังเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะทำได้”นางกานต์รวี กล่าว