posttoday

ตำรวจจ่อเรียก3เจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวร่วมติวเตอร์หลอกตุ๋นฝากเข้าราชการ

17 กันยายน 2560

ตำรวจจ่อเรียก 3 เจ้าหน้าที่รัฐต้องสงสัยเอี่ยวร่วมก๊วนติวเตอร์ย่านหัวหมากหลอกตุ๋นฝากเข้ารับราชการ

ตำรวจจ่อเรียก 3 เจ้าหน้าที่รัฐต้องสงสัยเอี่ยวร่วมก๊วนติวเตอร์ย่านหัวหมากหลอกตุ๋นฝากเข้ารับราชการ

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการจับกุมตัว นายวีระชัย กาละภักดี อายุ 41 ปี อาจารย์ติวเตอร์สถาบันย่านหัวหมาก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 245/2560 ลงวันที่ 4 ส.ค. 60 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง หลังผู้ต้องหารายนี้ได้มีพฤติการณ์ในการหลอกลวงเรียกรับเงินจากผู้เสียหายโดยอ้างว่าตนเองสามารถพาฝากเข้าทำงานรับราชการตำรวจ ทหารและพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ. ได้แต่ผู้ที่สนใจจะต้องยอมจ่ายเงินเป็นค่าวิ่งเต้นดำเนินการรายละประมาณ 5 แสนบาท  ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เสียหายหลงเชื่อยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการให้กับนายวีระชัย จำนวนหลายราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 30 ล้านบาทนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันที่ 17 ก.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป. กล่าวว่า การจับกุมนายวีระชัย เป็นการจับตามหมายจับของจ.กาฬสินธุ์ ในข้อหาฉ้อโกง เท่าที่ตรวจสอบทราบขณะนี้ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ กำลังจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มเติมอีก ส่วนผู้เสียหายหลายรายไม่เข้าแจ้งความนั้น เนื่องจากว่า หลังจากที่ติวเตอร์แทน รู้ตัวว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี จะติดต่อเคลียร์ค่าเสียหายให้ พร้อมกับให้ถอนแจ้งความ ทำให้ผู้เสียหายส่วนใหญ่ถอนแจ้งความไม่เอาเรื่อง จึงทำให้ติวเตอร์แทนสามารถหลอกลวงเหยื่อได้มาตลอดเกือบ 2 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก. 1 บก.ป. ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้แล้วทางเจ้าหน้าที่ชุดจับได้เตรียมดำเนินการขยายผลสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม โดยจะมีการประสานข้อมูลร่วมกันกับทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของคดีเดิม เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่านอกจาก ผู้ต้องหารายนี้แล้วนั้นยังมีบุคคลรายอื่นๆเกี่ยวข้องและอยู่ร่วมในขบวนการกระทำความผิดดังกล่าวด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการหารือและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขออำนาจศาลออกหมายค้นที่ทำการสถาบันติวเตอร์ย่านหัวหมาก ของผู้ต้องหารายนี้ เพื่อตรวจสอบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ยังได้รับการติดต่อประสานจากทางผู้เสียหายอีกหลายรายซึ่งเคยถูกผู้ต้องหาหลอกลวงฉ้อโกงในลักษณะดังกล่าว เพื่อขอเข้าแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย

นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ภายหลังจากทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ได้รับการส่งมอบตัว ผู้ต้องหาจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมาแล้ว โดย พ.ต.อ.วัฒนา เกสรมาลา ผกก.สภ.คำม่วง ก็ได้สั่งการให้ ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ ผู้ต้องหาเกี่ยวกับคดีดังกล่าวต่อในทันที แต่ผู้ต้องหารายนี้กลับขอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดในชั้นสอบสวน โดยขอไปให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหาส่งตัวฝากขังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ผลัดแรกในวันที่ 18 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ซึ่งคดีส่วนใหญ่ที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่เข้ามาแจ้งความนั้นจะเป็นคดีในลักษณะถูกหลอกเรียกรับเงินค่าดำเนินการฝากเข้ารับราชการตำรวจ ทหารและ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายรายอื่นๆกระจายเข้าแจ้งความตามสถานีตำรวจท้องที่พื้นที่อื่นๆอีกหลายแห่งและคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง เพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 10 คดี

นอกจากนี้จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้เสียหายและจากการสืบสวน นั้นทางเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการต้มตุ๋นหลอกฝากเข้าทำงานของผู้ต้องหาอีกหลายราย ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้พบผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยอยู่ร่วมในขบวนการดังกล่าว จำนวน 3 คนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังเจ้าหน้าที่พบพฤติการณ์ของบุคคลทั้ง 3 นี้มีลักษณะต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการจัดหาผู้เสียหายส่งต่อให้กับผู้ต้องหา ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.คำม่วง เตรียมจะทำการประสานเชิญตัวทั้ง 3 คนนี้มาให้ปากคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ภายในเร็ววันนี้

อย่างไรก็ตามหนึ่งในผู้ต้องสงสัย 3 รายที่จะถูกออกหมายเรียกนั้น เคยมีประวัติถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คำม่วง และสภ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จับกุมในคดีที่ได้เคยร่วมกับผู้ต้องหาฉ้อโกงผู้เสียหายในลักษณะฝากเข้าทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อช่วง 2-3 เดือน ก่อนหน้านี้