ยกฟ้อง!"ครูแขก"เอี่ยวคดีระเบิดมีนบุรีปี57
ศาลพิพากษา ยกฟ้อง "ครูแขก" เอี่ยวคดีระเบิดมีนบุรีเมื่อปี57 ชี้พยานหลักฐานอ่อน
ศาลพิพากษา ยกฟ้อง "ครูแขก" เอี่ยวคดีระเบิดมีนบุรีเมื่อปี57 ชี้พยานหลักฐานอ่อน
เมื่อวันที่7 ก.ย. เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลอ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.อัมพร ใจก้อน หรือครูแขก อายุ 57 ปี ชาวเชียงใหม่ ที่ใกล้ชิดผู้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ ซื้อ มี ใช้ สั่งหรือนำเข้า วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ , ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดฯ มาตรา 38 , 55 ,78 จากกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 มี.ค.57 เกิดเหตุระเบิด ที่บริเวณลานดินกว้าง ติด ถ.ราษฎร์อุทิศ ระหว่าง ซ.ราษฎร์อุทิศ 25-27 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อยู่ในสภาพถูกระเบิดพังเสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าก่อนเหตุนายกษิ ดิฐธนรัชต์ หรือ นายอ่าว อิสระส์ เป็นบุคคลที่มาติดต่อเช่าบ้านที่เกิดเหตุให้กับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย กับพวกเพื่ออาศัย ทั้งนี้ในชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์มีพนักงานสอบสวนเบิกความว่าพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยทำแผนผังความเชื่อมโยงของนายกษิ ดิฐธนรัชต์ หรือนายอ่าว อิสระส์ ผู้ที่กระทำผิดร่วมโดยเชื่อมโยงกับจำเลยแต่โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่ยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิด เช่นเดียวกับพยานแวดล้อมก็ไม่ยืนยันว่าเห็นจำเลยมาที่ห้องพักเลขที่ 49 ที่โจทก์ระบุว่าเป็นห้องที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด ประกอบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีลายนิ้วมือเป็นของจำเลยปรากฏในห้องเช่า พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่แน่ชัดว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย พิพากษายกฟ้อง
ภาพประกอบข่าว