posttoday

'ข้างหลังภาพ' เสือกระต่าย

26 กุมภาพันธ์ 2560

ผมจะร่ายเบื้องหลังการถ่ายภาพแมวป่าหรือเสือกระต่าย เป็นซีรี่ส์ไปเรื่อยๆ หากคุณอ่านแล้วพบว่าไหงมันจบห้วนๆ

โดย...ปริญญา ผดุงถิ่น

ผมจะร่ายเบื้องหลังการถ่ายภาพแมวป่าหรือเสือกระต่าย เป็นซีรี่ส์ไปเรื่อยๆ หากคุณอ่านแล้วพบว่าไหงมันจบห้วนๆ ขอให้รู้ไว้ว่า “อ่านต่ออาทิตย์หน้า”

ผมกล้าพูดว่า การจัดการที่สมบูรณ์แบบ คือกุญแจความสำเร็จครั้งนี้ ในเรื่องการประสานงานระดับหน่วยราชการด้วยกัน ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ “แม่ทัพใหญ่” ของเหล่านักวิจัยกรมอุทยานฯ โดดลงมาช่วยเหลือด้วยตัวเอง อะไรๆ ก็ไฟเขียวผ่านตลอด มิฉะนั้นบอกเลย ไม่มีทางเป็นไปได้

ตัดมาในส่วนของการเตรียมการของผมเองดีกว่า ผมต้องใช้สมองครุ่นคิดมากมายกับเรื่องของอุปกรณ์ ในเมื่อต้องทิ้งกล้อง Camera Trap ไว้อย่างต่ำ 1 เดือน ในพื้นที่ป่าที่ไม่รู้จัก ไม่มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัย การตัดสินใจต้องเนี้ยบระดับ Executive Decision เลยทีเดียว อิอิ

ความที่เสียวของจะหาย ตอนแรกผมคิดจะส่งไปเสี่ยงตายแค่กล้องเดียวพอ และต้องเป็น Canon 7D ด้วยเหตุผลสำคัญ มันไม่ใช่กล้องผม เป็นของเพื่อนทิ้งไว้ให้ใช้ หายไม่เป็นไร (มั้ง) 555

แต่คำพูดของ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ที่แจ้งต่อผมว่า มีคนรีเควสต์มา อยากเห็นภาพ “เสือกระต่ายติดดาว” เพราะรู้ว่าผมถ่าย “เสือโคร่งติดพระจันทร์” ได้มาแล้ว ทำให้ผมตัดสินใจได้ทันทีนั้น ว่างานนี้ต้อง “จัดหนัก”

จัดหนักคือ เอากล้องไป 2 ชุด ชุดหนึ่งคือแบบเบสิก ผมเลือกจะใช้ Nikon D7000 เพราะแบตเตอรี่อึดกว่ากล้องตัวหลักอย่าง D90 ใช้ร่วมกับเลนส์มือหมุน 24/2.8 ซึ่งคมกว่าเลนส์คิท 18-55 ที่ใช้ประจำ

อีกชุดหนึ่งคือแบบถ่ายติดดาว ผมเลือกกล้องฟูลเฟรมที่ไว้ใจที่สุดอย่าง Nikon D600 เพราะแบตเตอรี่อึดกว่า ไฟล์ดีกว่า D700 ประกบกับเลนส์มุมกว้างที่ดีที่สุดที่มี คือ AF-S 20/1.8 Nano

แม้แต่แฟลชก็ยังต้องผ่านการตัดสินใจแบบเดียวกับกล้อง จริงๆ แล้ว แฟลชถูกๆ ดูจะเหมาะสมกับพื้นที่ห่างไกลอย่างอมก๋อย แต่นั่นแหละ พอตั้งโหมดว่างานนี้ “จัดหนัก” ผมก็เลยจัดแฟลชที่มั่นใจที่สุด คือ SB800 ส่งไปทำภารกิจเสี่ยงตายนี้พร้อมกัน 3 ตัว

ก่อนไป ยังได้นำอุปกรณ์ทุกชิ้นมาทดสอบ จนมั่นใจเต็มร้อยจะไม่ตีรวนเมื่อไปถึงที่ แม้แต่ถ่านชาร์จสำหรับใส่แฟลช ผมก็ชาร์จแบบล้างประจุ กว่าไฟจะเต็มในแต่ละชุด กินเวลาข้ามวันข้ามคืน เพื่อให้แฟลชมีกำลังไฟสูงสุด

ฤดูกาลก็สำคัญมาก เดือน ม.ค.ที่ผมเลือก เจ้าหน้าที่บอกว่าถูกต้องที่สุดแล้ว เพราะหมดฤดูเห็ดถอบฟีเวอร์ไปแล้ว มิฉะนั้น ชาวบ้านจะแห่มาเก็บเห็ดกันเต็มป่า และหากล่าช้าไปถึงเดือน มี.ค. ก็อาจเจอเข้ากับ “ไฟฝันควันรัก” (ไฟป่า) ส่วนเหตุผลของผมเอง ต้องการค่ำคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีโอกาสได้ภาพดาวระยิบระยับ

ถูกที่ ถูกเวลา อุปกรณ์เสถียร แต่ถ้าขาดสิ่งสำคัญ ผมอาจไม่ได้อะไรเลย หรือได้ภาพแค่ปลายหางเสือกระต่ายก็เป็นได้ สิ่งนั้นมีชื่อว่า ดวง!