posttoday

"หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม" เจ้าอาวาสวัดอัมพวันมรณภาพแล้วอย่างสงบ

25 มกราคม 2559

ศิริราชแถลง "หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม" เจ้าอาวาสวัดอัมพวันมรณภาพอย่างสงบ หลังเข้ารักษาอาการอาพาธจากโรคปอดอักเสบ

ศิริราชแถลง "หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม" เจ้าอาวาสวัดอัมพวันมรณภาพอย่างสงบ หลังเข้ารักษาอาการอาพาธจากโรคปอดอักเสบ

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รายงานอาการอาพาธของพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) ระบุว่า

ตามที่ พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เข้ารับการรักษาอาการอาพาธในโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 2558 ด้วยอาการหอบเหนื่อยจากโรคปอดอักเสบ โดยคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและออกซิเจนนั้น

ต่อมาโรครุนแรงขึ้น แพทย์ได้ถวายการช่วยหายใจและถวายการรักษาประคับประคองระบบการหายใจและหลอกเลือดด้วยเครื่องพยุงการทำงานของหัวใจและปอด ถวายการรักษาทดแทนไต ระยะหลังอาการทรุดลง เริ่มมีเลือกออกผิดปกติจนต้องมีการถวายเลือดและเกล็ดเลือด จนในที่สุดการทำงานขอองอวัยวะต่างๆ ล้มเหลว ไม่สามารถถวายการรักษาประคับประคองได้ต่อไป พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบในวันที่ 25 ม.ค.2559 เวลา 8.37 น.

สำหรับประวัติ พระธรรมสิงหบุราจารย์ ( จรัญ ฐิตธมฺโม ) เกิดเมื่อ 15 ส.ค. 2471 เวลา 07.10 น. ( 4ฯ 8ปีมะโรง ) ที่ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวน 10 คน ซึ่งเกิดจากโยมมารดาเจิม และโยมบิดาแพ จรรยารักษ์
อุปสมบทเมื่อ 15 ก.ค. 2491 เวลา 14.00 น. ณ วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีท่านเจ้าคุณ พระพรหม นคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรวิริยคุณ วัพพุทธาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ ปภากโร วัดพรหมบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

การศึกษาพระธรรมวินัย และ วิปัสสนากรรมฐาน

พ.ศ. 2491 ศึกษาวิชากรรมฐานกับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ ( หลวงพ่อเดิม ) วัดหนองโพธิ์ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

พ.ศ. 2493 ศึกษาและปฏิบัติสมถกรรมฐาน วิชชาธรรมกายกับพระภาวนาโกศลเถระ ( สด จันทรสโร ) หลวงพ่อวัดปากน้ำ อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดชลบุรี

พ.ศ. 2495 ศึกษาการทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันมนต์ กับ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ พระครูวินิจสุตคุณ ( หลวงพ่อสนั่น ) วัดบางกระเบา อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี

พ.ศ. 2497 ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน กับเจ้าคุณอาจารย์พระอุดมวิชาญาณเถระ ( เจ้าคุณโชดก) วัดมหาธาตุ จังหวัดพระนคร ต่อมาเป็นพระธรรมธีรราชมหามุนีเจ้าคณะภาค 9 ( พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ)

พ.ศ. 2498 ศึกษาพระอภิธรรม กับ อาจารย์เตชิน ( ชาวพม่า ) วัดระฆังโฆสิตาราม จังหวัดธนบุรี

พ.ศ. 2498 ศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับอาจารย์พันเอกชมสุคันธรัต

พ.ศ. 2498 ศึกษาพยากรณ์ จาก สมเด็จพระสังฆราช ( อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศ จังหวัดพระนคร

เดินธุดงค์รอนแรมหาที่สงบ เพื่อจำศีลภาวนา ตามป่าเขาลำเนาไพรทางภาคเหนือ จนพบพระอาจารย์ในป่า ผู้ทรงคุณที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน และเดินธุดงค์ข้ามไปเบกอง หงสาวดี ประเทศพม่า ไทยใหญ่สิบสองปันนา

งานการปกครองและสมณศักดิ์

ได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เมื่อปี พ.ศ.2542

ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะ ชั้นธรรม ที่ " พระธรรมสิงหบุราจารย์ " เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2547
ผลงาน

นับตั้งแต่หลวงพ่อดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ. 2500 ได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อบริหารงานวัด และช่วยวัดอื่นๆให้เจริญก้าวหน้า ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักพัฒนาตัวอย่างจากกรมการศาสนา และกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อ พ.ศ. 2512

ท่านเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์ และ พระวิปัสสนาจารย์ พร้อมกันเสร็จในตัวของท่าน ท่านจึงมีผลงานในทุกๆปีมากมายจนเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป

การพัฒนาสิ่งแวดล้อม

เนื่องจากวัดอัมพวันได้เปิดการอบรมพัฒนาจิตใจ และคุณธรรมแก่ประชาชน และคณะสงฆ์ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศตลอดทั้งปี จึงจัดสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกขึ้นภายในวัดเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ในขณะเดียวกันก็หาทางป้องกันปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่มีผลเสียถึงประชาชนท่านจึงได้สร้างอุปกรณ์เพื่อความสะดวก และป้องกันปัญหาต่างๆ ดังนี้

- สร้างเตาเผาขยะสด เพื่อกำจัดขยะทั่วไปภายในบริเวณวัด

- จัดตั้งโรงบำบัดน้ำเสีย เพื่อบำบัดน้ำเสียจากการใช้ทั่วไปในบริเวณวัด ให้กลายเป็นน้ำดีก่อนลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา