จวกยับ!เรือทัวร์หัวใสใช้อาหารล่อปลาให้นักเที่ยวชมใต้ท้องเรือ

วิจารณ์สนั่น!เรือทัวร์เกาะพีพีใช้อาหารล่อปลาเข้ามาใต้ท้องเรือให้นักท่องเที่ยวจับเล่น ชี้ผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat เป็นภาพฝูงปลาสลิดหินนับร้อยตัวกำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลใสใต้ท้องเรือ บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมระบุว่าเป็นภาพถ่ายที่ลูกศิษย์ส่งมาให้ โดยเรือท่องเที่ยวใช้วิธีอาหารล่อปลาเข้าไปใต้ท้องเรือให้นักท่องเที่ยวเล่น แม้ไม่ได้กักขัง แต่การทำเช่นนี้ในเขตอุทยานแห่งชาติถือว่าผิดกฎหมาย เท่าที่ทราบเบื้่องต้นพบว่าเรือลำดังกล่าวใบอนุญาตขาดอายุแล้ว ทั้งยังเป็นใบอนุญาตทำเรือท้องกระจก ไม่ใช่เรือเลี้ยงปลา ขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องให้ถึงที่สุดด้วย

ต่อมา เฟซบุ๊กกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้ชี้แจงว่า กรณีมีข่าวในสื่อ Social Network เรื่องเรือ Aquarium ล่อปลาเข้ามาในช่องกระจกใต้ท้องเรือ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมและสัมผัส บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพี จ.กระบี่ นั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยหน่วยอนุรักษ์ฯ กระบี่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเรือดังกล่าวจอดในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะพีพี จึงได้ประสานหัวหน้าอุทยานฯ เจ้าท่ากระบี่ ตำรวจน้ำ และหน่วยงานร่วมของศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต (ศรชล.) เพื่อสนธิกำลังตรวจสอบรายละเอียดต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้คนจำนวนมากต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียล

Noppawan Jaiklaew กล่าวว่า "จากที่เคยไปที่เรือนี้มา ถือว่าโอเคมากนะคะ คือจากที่เราเห็นปลาสามารถว่าน้ำเข้าออกจากจุดนี้ได้ตามที่ปลาต้องการ แล้วเป็นการดักปลาตรงไหน?? เราก็งงอยู่ เรารู้สึกได้ว่าได้สัมผัสปลาแบบธรรมชาติจริงๆ รู้สึกว่าเรือลำนี้ได้จดสิทธิบัตรอย่างถูกต้องด้วยนิคะ ^^ "

Ble Ovas เผยว่า "จากในภาพ ห้องกระจกดังกล่าวอยู่ใต้ระดับผิวน้ำนะค่ะ ซึ่งภายในห้องนี้ได้ปรับแรงดันอากาศไว้เพื่อไล่น้ำทะเลออก และช่วยให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถหายใจใต้น้ำได้อย่างเป็นปกติค่ะ พูดได้ว่ามนุษย์เราสามารถเข้าไปสัมผัสกับโลกใต้ทะเลได้อย่างแท้จริงค่ะ ซึ่งปลาที่ได้เห็นก็คือปลาที่ว่ายน้ำใช้ชีวิตใต้ทะเลอย่างปกตินะค่ะ ไม่ได้มีการ "ดักปลา" หรือ "ล่อปลา" แต่อย่างใด ซึ่งเปรียบเสมือนการที่เราได้ดำน้ำดูปลาใต้ทะเลค่ะ (ห้องใต้ทะเลดังกล่าวได้จดสิทธิบัตรอย่างถูกต้องตามกฏหมายโดยภูมิปัญญาของคนไทยเป็นที่เรียบร้อยค่ะ) นโยบายที่แท้จริงของเรือลำนี้ คือช่วยปลูกฝังผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมที่ได้สัมผัสกับใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด รู้สึกรักและอยากจะช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ทางเราไม่เคยคิดที่ทำลาย นอกเหนือจากนี้ทางเรายังช่วยสอดส่องดูแลทรัพยากรทางทะเลอย่างใกล้ชิดค่ะ"

ขณะที่ ลั๊นลา ลั๊นลา มีความสุขจัง แสดงความไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า "สิ่งที่ผิดและรับไม่ได้ของธุรกิจนี้คือการให้อาหารปลาครับ ไม่ได้มโน และรุ่นน้องผมเป็นคนแจ้งเรื่องนี้มาเองครับ เข้าใจว่าภูมิปัญญา แต่ขาดการต่อทะเบียนเรือตั้งแต่ปี 54 และมีการโฆษณาว่า "ป้อนอาหารปลา" ลงในสื่อของบริษัท ทั้งๆ ที่มีประกาศห้ามอย่างชัดเจน และยังมีภาพหลักฐานมากมายที่เป็นของเรือลำนี้ ต่างประเทศเขายึดใบประกอบการไปเรียบร้อยแล้วครับ"

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ ได้รณรงค์ห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวให้อาหารปลา และขนมปังในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลทุกแห่งมาอย่างต่อเนื่อง เพราะการให้อาหารปลาในทะเลทำให้ระบบนิเวศน์ไม่สมดุล เนื่องจากปลาที่ว่ายมากินขนมปังส่วนใหญ่ไม่ใช่ปลาเจ้าถิ่น เมื่อนักท่องเที่ยวให้อาหารบ่อยๆ ปลาหลายชนิด โดยเฉพาะปลาสลิดหินที่มีนิสัยดุร้ายก็จะมารออาหารในบริเวณนั้นมากขึ้น ส่งผลให้ปลาเจ้าถิ่นถูกขับไล่ต้องล่าถอยไปจากแหล่งหากินเดิม

ภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat