ยังไม่พบ5คนไทยจากเหตุเครื่องบินลาวตก

พบ 26 ผู้เสียชีวิตจากเหตุบินลาวตกกลางโขง แต่ยังไม่เจอ5ศพคนไทย ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ก่อนแจ้งญาติ

นายรัศม์ ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ไทย ประจำแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงความคืบหน้าการค้นหาผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินลาวแอร์ไลน์ตกลงกลางแม่น้ำโขง ล่าสุดชุดพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุที่เมืองปากเซ เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. และขณะนี้กำลังปฏิบัติงานอยู่

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า แต่คาดว่าจะเริ่มทราบความคืบหน้าแน่ชัดในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.)  ส่วนการพบศพวิศวกรของ บริษัทปตท. แล้วนั้น ซึ่งทางปตท.แจ้งว่าเป็นศพพนักงานของปตท.ชาวลาว สำหรับการระบุสัญชาติของศพผู้เสียชีวิตที่ถูกค้นหามาได้ก่อนหน้านี้ กำลังอยู่ในกระบวนพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ส่วนที่ระบุว่ามีศพที่เป็นชาวลาวและชาวจีนนั้น เพราะเป็นศพที่ถูกพบในวันแรก โดยอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และญาติสามารถชี้บอกได้

“ศพที่ถูกพบในวันต่อๆมา เจ้าหน้าที่ค้นหาไม่สามารถพิสูจน์หรือยืนยันด้วยสายตาได้ จึงต้องใช้การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ดังนั้น เราต้องรอติดตามผลการดำเนินงานต่อไป”นายรัศม์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการค้นหาผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินลาวตกลงกลางแม่น้ำโขงนั้น  สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ แจ้งว่า เมื่อเวลา 14.50 น. พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมเป็น 26 ศพ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นคนสัญชาติใดบ้างและเป็นคนไทยหรือไม่

อย่างไรก็ดี ศพเหล่านี้ทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ซึ่งทางการสปป.ลาว ต้องรอการตรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการ ก่อนออกประกาศรายละเอียดของผู้เสียชีวิตต่อไป ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตของประเทศต่างๆ ที่มีคนเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ได้ไปประจำการอยู่ที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสักแล้ว

ส่วนของไทยให้การสนับสนุนในเรื่องเทคนิคและบุคลากร โดยเครื่องบินลำเลียงเที่ยวบินพิเศษของกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ขนอุปกรณ์ค้นหาที่มีความทันสมัย พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและนักประดาน้ำ มาถึงเมืองปากเซแล้วเมื่อช่วงบ่าย

นายรัศม์ กงสุลใหญ่ไทย ประจำแขวงสะหวันนะเขต รอรับคณะ พร้อมกับได้เตรียมข้อมูลต่างๆของผู้โดยสารชาวไทยทั้ง 5 คน ไม่ว่าจะเป็นลายนิ้วมือจากการทำหนังสือเดินทางอิเล็คทรอนิกส์ (อี-พาสปอร์ต) รูปถ่ายหน้าตรง ข้อมูลญาติ และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆให้กับสตช.ใช้ดำเนินการ ซึ่งทุกฝ่ายพยายามทำงานอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาผู้เสียชีวิต จึงขอให้ทุกฝ่ายติดตามข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เพื่อป้องกันความสับสนของผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวของผู้เสียชีวิต