จับมือวางจยย.บอมบ์หน้าสนามบินนราฯ

ทหารรวบมือวางระเบิด จักรยานยนต์บอมบ์หน้าสนามบินนราฯ เตรียมขยายผลตามล่าผู้ต้องสงสัยอีก 3

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราธิวาส นำกำลัง ฉก.นย.ค่ายจุฬาภรณ์ พร้อมด้วย น.ท.บัญญัติ วงศ์จำปา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายปกครองของ อ.บาเจาะและ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส รวม 100 นาย ใช้กฎอัยการศึกจู่โจมตรวจค้นในพื้นที่ บ.ฆอและ ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ภายหลังรับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ถึงแหล่งกบดานของผู้ก่อความไม่สงบ ก่อนทำการจับกุมนายอัซซัน สามะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.5 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมระดับปฏิบัติการกลุ่มของนายวาเหะ กะดิงและนายปรือกิห์ นิมิง แกนนำระดับสั่งการที่เคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่ อ.บาเจาะและใกล้เคียง

ทั้งนี้นายอัซซัน ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ เป็นผู้ที่ขับขี่รถ จยย.แบบพ่วงข้างที่บรรทุกระเบิดบรรจุในถังแก๊ส จำนวน 3 ลูกๆละ 25 กก.ที่ประกอบไว้ในถังแก๊สปิกนิค 3 ถัง แล้วมัดติดกันทั้ง 3 ถัง จากนั้นจึงใช้ลูกมะพร้าววางปิดทับเพื่ออำพรางสายตาเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงไปจอดรถไว้ริมถนนสายบ้านทอน – นราธิวาส บริเวณก่อนถึงปากทางเข้าสนามบินนราธิวาส ก่อนจะจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือในขณะที่รถบัสของเจ้าหน้าที่ทหาร ทะเบียน 40365 ของหน่วยเฉพาะกิจ นาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ ขับผ่านมาเมื่อวันที่ 7 ส.ค.2555 ที่ผ่านมา โดยระเบิดทำงานเพียง 1 ลูก ส่งผลให้ พลฯพีรวัฒน์ คำนวณดีและพลฯวีระชัย กุสันเทียะ ที่นั่งมาในรถบัสได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอัซซัน มือวางระเบิดที่รับสารภาพถึงขั้นตอนและผู้ร่วมขบวนการไปขยายผลในที่เกิดเหตุ และพบว่าผู้ที่ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีการจับกุมมีอีก 3 คนคือ 1.นายมะยากี ดีเย๊าะ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.3 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาหลายคดี ทำหน้าที่เป็นผู้จุดชนวนระเบิด 2.นายมะรอมือลี กาแจกาซอ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.4 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาทั้งคดีปล้นปืนค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 ม.ค.47 ทำหน้าที่ขับรถนำนายอัซซัน และ 3.นายฮาเซ็ม บือราเฮง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/2 ม.4 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ ที่มีหมายจับ ป.วิอาญาคดีปล้นปืนค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 เช่นกัน ทำหน้าที่ให้ข้อมูล ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กองกำลังผสมทั้ง อ.บาเจาะและ อ.เมืองนราธิวาสได้ทำการติดตามไล่ล่าตัวบุคคลทั้ง 3 อย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

น.อ.สมเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งอ.เมืองและอำเภอใกล้เคียงไม่เห็นด้วยกับการก่อเหตุรุนแรง จึงแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ได้รู้ถึงความเคลื่อนไหวจนนำไปสู่การจับกุมในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องแต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายเพื่อที่จะทำให้พื้นที่ทั้ง 3 จชต.เกิดความสันติสุขให้ได้โดยเร็ว