LINE ติดอาวุธ SME ไทย อัปสกิล ปั้นแบรนด์ให้ปังจากตัวจริง

LINE ประเทศไทย เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง จัดงาน BOOTCAMP CLASSROOM เวทีอัปสกิลครั้งใหญ่ส่งท้ายปี รวมตัวผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ ทั้งกูรูด้านการสร้างแบรนด์ นักกลยุทธ์สร้างยอดขาย และ Customer Experience รวมไปถึงโค้ชมากประสบการณ์จาก LINE Certified Coach 2025 ที่มาร่วมถ่ายทอดเทรนด์ อัปเดตความรู้ และจัดเวิร์กชอปให้ผู้ประกอบการได้ลงมือทำจริง พร้อมเปิดมุมมองความสำเร็จจากธุรกิจชั้นนำ หนุนธุรกิจ SME ไทยให้โตได้จริงในยุคดิจิทัล  

สร้างแบรนด์ ปรับประสบการณ์ ทางรอดฝ่าทิศทางตลาดผันผวน

สกุลรัตน์ ตันยงศิริ ผู้อำนวยการธุรกิจ Official Account จาก LINE ประเทศไทย เผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญความผันผวนรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การปรับขึ้นภาษี และภัยพิบัติต่าง ๆ ทำให้วันนี้ “การสร้างแบรนด์” ไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่เป็นหัวใจที่ช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดอยู่ได้ในวันที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อยากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมามองหาแบรนด์ที่มี “คุณค่า” แบรนด์ที่แข็งแกร่งจึงต้องทำให้ลูกค้ารู้จัก ไว้ใจ จำได้ ผูกพัน และกล้าบอกต่อ 

ข้อมูลจาก LINE พบว่า ร้านค้าที่เป็นบัญชีรับรอง (Verified Account) มีการเพิ่มเพื่อนมากกว่าบัญชีทั่วไปกว่า 105% รวมถึงยอดขายผ่าน MyShop มากกว่า 40% และจำนวนออเดอร์มากกว่า 28%

ล่าสุด LINE ได้เพิ่มฟีเจอร์ Nearby เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร้านค้าที่เปิดใช้งาน LINE OA ถูกค้นหาเจอง่ายทั้งบน Google และ LINE ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงร้านค้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้ เพิ่มโอกาสเข้าถึงร้านค้าและเพิ่มจำนวนเพื่อนบน LINE OA ให้กับร้านค้าได้มากขึ้น

ทั้งนี้ การสร้าง “ประสบการณ์” ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่า สะดวกและไม่เสียดาย เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการสร้างการเติบโตที่ไม่ควรมองข้าม” 

เปิดกลยุทธ์พลิกเกมธุรกิจ เสริมแกร่งด้วยอาวุธบน LINE 

กวินทร์ สวัสดิ์ศรี หัวหน้าทีม OA Product & Marketing Strategy จาก LINE ประเทศไทย ยังได้แนะถึง 3 กลยุทธ์ช่วยติดอาวุธให้ร้านค้าเติบโตอย่างแข็งแกร่งผ่าน LINE ได้แก่

1.Brand Value การสร้างคุณค่าของแบรนด์ ด้วยสินค้าคุณภาพ และคอนเทนต์ที่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำการสร้าง Customer Experience ผ่านฟีเจอร์ ‘ริชเมนู’ ที่สามารถช่วยแบรนด์บริหารจัดการช่องทางให้ลูกค้าเข้าถึงบริการหรือร้านค้าบน MyShop ได้สะดวก ง่าย ไปจนถึงการสร้างฐานแฟนด้อมบน LINE

2. Customer Data การใช้ดาต้าสร้างฐานลูกค้าประจำ ช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและดึงกลับมาซื้อซ้ำได้ตรงจุด

3.Variety & Continuity ความหลากหลายและต่อเนื่อง โดยพบว่า การสื่อสารแบบ Targeting สลับกับการสื่อสารแบบ Mass ช่วยลดอัตราการบล็อกและเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างชัดเจน 

สร้างความต่างด้วยประสบการณ์ที่ใช่ และระบบที่ตอบโจทย์ลูกค้า

ด้าน คมสันต์ ลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด เปิดมุมมองถึงแนวทางการอยู่รอดของ SME ไทยในยุคแข่งขันสูงว่า วันนี้ธุรกิจไม่ได้แข่งกันแค่ราคาอีกต่อไป แต่แข่งกันที่ประสบการณ์และความไว้ใจที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งการแชทถือเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นเพื่อนกับแบรนด์ รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า

คมสันต์ ลี

แบรนด์ควรเลือกช่องทางที่มีระบบตอบโจทย์กับทั้งร้านค้าและลูกค้าอย่าง LINE ที่มีความพร้อมในโซลูชันต่าง ๆ ทั้งการสื่อสาร การปิดการขาย และการจัดการระบบหลังบ้าน พร้อมหาจุดแข็งของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพสินค้า รสชาติ บริการ หรือแพ็กเกจจิ้ง ที่จะช่วยพาแบรนด์ไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง