การค้าไทย-ลาว พุ่ง 2.4 หมื่นล้าน ไปรษณีย์ หนุน SME คว้าโอกาส
โอกาสเปิดทางเศรษฐกิจใหม่ การค้าชายแดนไทย-ลาว โตแรง 8.8% ผนึก 5 โซลูชัน หนุนผู้ประกอบการ SME คว้าโอกาส-เพิ่มบริการเก็บเงินปลายทาง
มูลค่าการค้าไทย-ลาว ขยายตัว 8.8% พุ่ง 2.4 หมื่นล้าน จากการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซและการมาของระบบขนส่งผ่านรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผย นี่คือโอกาสในการสร้างความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ทั้ง 2 ประเทศ คือ ไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาวในการส่งเสริมสินค้า SME ร่วมกัน
เขา อธิบายเพิ่มเติมว่า ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เดือนกันยายนปี 2568 พบว่ามูลค่าการค้ารวมระหว่างสองประเทศมีมูลค่ากว่า 23,952 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.8 % นั้น สอดคล้องกับการขยายตัวของตลาด e-Commerce ในลาวที่มีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์และบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้โครงสร้างด้านเครือข่ายขนส่งและระบบการชำระเงิน มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ 2 ประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง ดังนั้น ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ระหว่างไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาว จึงนับเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจดิจิทัล ในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะในระเบียงเศรษฐกิจไทย–ลาว–จีน ซึ่งมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ตามแนวเส้นทางรถไฟจีน–ลาว ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวของโลจิสติกส์ทางบกอย่างมีนัยสำคัญ
ไปรษณีย์ไทย ได้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ “Parcel Defined Logistics” เพื่อรองรับการจัดส่งพัสดุ ทุกรูปแบบ ตั้งแต่สินค้าขนาดเล็กไปจนถึงสินค้ามูลค่าสูง ดังนั้นเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการไทย-ลาว และภาคการค้าระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมกันกำหนด 5 โซลูชันยุทธศาสตร์หลัก เป็นแผนที่นำทาง ประกอบด้วย
1. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เริ่มจากการใช้ระบบส่งต่อถุงเมล์แบบปิด–เปิด ทั้งทางอากาศและภาคพื้น รวมถึงบริการ EMS ข้ามสะพานมิตรภาพไทย–ลาว พร้อมนำเทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (EDI) มาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านศุลกากรและเพิ่มความโปร่งใส
2. ขยายอาณาจักร e-Commerce ข้ามพรมแดน ด้วยการขยายบริการ ePacket และ COD (เก็บเงินปลายทาง) ในเส้นทาง ไทย–ลาว–จีน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถส่งสินค้าข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
3. เสริมศักยภาพทางการเงินดิจิทัล ด้วยระบบ e-Wallet และช่องทางชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการต่ออายุความร่วมมือแบบ Exclusive กับ Western Union เพื่อเพิ่มทางเลือกในการโอนเงินระหว่างประเทศที่ปลอดภัยและทันสมัย
4. สร้างภาพลักษณ์แห่งมิตรภาพ กับการตลาดและตราไปรษณียากรที่ถูกนำมาใช้เพื่อสะท้อนมิตรภาพและวัฒนธรรมของสองประเทศ ผ่านการจัดทำแสตมป์เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ไทย–ลาว
5. ลงทุนในทรัพยากรบุคคล มีการพัฒนาบุคลากรและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านการอบรมทั้งรูปแบบ Onsite และ Virtual Learning เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการของทั้งสององค์กร
ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ ไปรษณีย์ไทย และ ฤทธิกร ภูมิศักดิ์ ไปรษณีย์ลาว
ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงโลจิสติกส์เท่านั้น แต่ยังเป็นการ วางรากฐานสนับสนุนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยไปรษณีย์ไทยได้นำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์ และการใช้ระบบถุงเมล์ปิด–เปิด ผ่าน เพื่อยกระดับความปลอดภัยของพัสดุระหว่างประเทศ พร้อมทั้งปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมให้ยุติธรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ SME และผู้ค้าออนไลน์
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันในทุกมิติ ไปรษณีย์ไทยและไปรษณีย์ลาวจึงตั้งเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ร่วมกันคือการก้าวสู่ ‘Trusted ASEAN Brand’ ที่เชื่อถือได้และยั่งยืน ไปรษณีย์ไทยยังมองไปข้างหน้า โดยมีแผนพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ให้ครบวงจร เชื่อมโยงทั้งภาคพื้น–ทางอากาศ–ทางราง และจะขยายเครือข่ายบริการให้ครอบคลุมด่านชายแดนสำคัญ เช่น หนองคาย, เชียงของ, และสะพานมิตรภาพไทย–ลาวทุกแห่ง เพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดจีนตอนในและยุโรปตะวันออก


