


“น้ำตาลทรายขาว-บริสุทธิ์” ปรับราคาเพิ่ม 3 บาทต่อกก. เริ่ม 8 พ.ย. 68
ภาคเอกชน ตั้งคำถาม ขึ้นราคาน้ำตาลได้หรือไม่ เหตุเป็นสินค้าอยู่บัญชีควบรวม พร้อมถามกระทรวงพาณิชย์ รู้หรือยัง หวั่นกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ ทำราคาสินค้าพุ่ง
แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า เพิ่งได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ถึงประกาศปรับราคาน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักร เพื่อใช้ประกอบการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนจากการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย (ราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน) ประจำฤดูการผลิตปี 2568/2569
ในประกาศฉบับแรก (ลงวันที่ 24 ต.ค. 2568) สอน. กำหนดราคาน้ำตาลทรายขาวไว้ที่ กิโลกรัมละ 21 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กิโลกรัมละ 22 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากประเมินต้นทุนการผลิตอ้อยและน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้น สอน. ได้ออกประกาศฉบับที่ 2 (ลงวันที่ 7 พ.ย. 2568) ปรับราคาน้ำตาลทรายใหม่ เพิ่ม 3 บาท คิดเป็น 13-14 %
• น้ำตาลทรายขาว กก.ละ 24 บาท จากเดิม 21 บาท
• น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 25 บาท จากเดิม 21 บาท
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป
การปรับราคาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น และใช้เป็นฐานในการคำนวณราคาอ้อยและผลตอบแทนระหว่างชาวไร่อ้อยกับโรงงานน้ำตาลในฤดูการผลิตปี 2568/2569 อย่างไรก็ดี น้ำตาลทรายถือเป็น 1 ใน 59 รายการสินค้าและบริการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ปี 2568 ซึ่งมีคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ดูแล เพื่อป้องกันการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค
แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ตามหลักการแล้ว การประกาศปรับขึ้นราคาสินค้าควบคุมต้องผ่านการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ โดย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ แต่ครั้งนี้กลับเป็นการประกาศราคาโดย กระทรวงอุตสาหกรรม (ภายใต้ สอน.) ซึ่งถือว่าผิดปกติ
“เรื่องดังกล่าว เคยเป็นข่าวมาครั้งหนึ่ง แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ยอม ดังนี่นต้องถามกระทรวงพาณิชย์ว่าสรุปแล้วเรื่องการขึ้นราคาน้ำตาลในครั้งนี้ได้รับทราบ และผ่านความเห็นชอบแล้วหรือยัง หากยังไม่ผ่านความเห็นชอบ จะคัดค้านหรือไม่” แหล่งข่าวระบุ “หากน้ำตาลทรายปรับขึ้น ราคาสินค้าอื่น ๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และน้ำอัดลม ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง”





