ปลุกพลัง SME ฝ่าวิกฤตซ้อนวิกฤต 2026! เปิดกลยุทธ์ "ฝ่า ฟัน ดึง ดัน" พลิกอุตสาหกรรมไทย
ในโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤตจากสงครามการค้า ภาษีคาร์บอน และความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์ "พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง" ขึ้นเวที SME Thailand Future Day 2026 ปลุกใจผู้ประกอบการไทยกว่า 3.2 ล้านราย สู้ด้วยหัวใจและนโยบาย "ฝ่า ฟัน ดึง ดัน" พร้อมชูวิสัยทัศน์ SME ไทยต้องไม่แค่รอด แต่ต้อง ‘รุก’ ด้วยเทคโนโลยี-ดิจิทัล-ความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจอนาคต!
KEY
POINTS
- ในโลกที่กำลังเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤตจากสงครามการค้า ภาษีคาร์บอน และความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์
- "พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง" ปลุกใจผู้ประกอบการไทยกว่า 3.2 ล้านราย สู้ด้วยหัวใจและนโยบาย "ฝ่า ฟัน ดึง ดัน"
- ชูวิสัยทัศน์ SME ไทยต้องไม่แค่รอด แต่ต้อง ‘รุก’ ด้วยเทคโนโลยี-ดิจิทัล-ความยั่งยืน ก้าวสู่เศรษฐกิจอนาคต!
ในโลกที่ธุรกิจไม่ได้ต่อสู้กันด้วย "ราคา" อีกต่อไป แต่คือการต่อสู้ด้วย "ความเร็ว เทคโนโลยี และความยืดหยุ่น" ผู้ประกอบการไทยกว่า 3.2 ล้านราย ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 35% ของ GDP และสร้างการจ้างงานมากกว่า 12 ล้านคนทั่วประเทศ ในวันนี้กำลังยืนอยู่บนเส้นทางที่สั่นคลอนที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจโลก
เมื่อ "สงครามการค้า–ภาษีคาร์บอน–ภูมิรัฐศาสตร์" ซัดเข้ามาพร้อมกัน โลกธุรกิจไม่ได้เผชิญแค่ "วิกฤตเดียว" แต่เป็น "วิกฤตซ้อนวิกฤต" หรือ Poly-crisis ที่ไม่มีใครหลีกหนีได้
และในวันที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติ "พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลุกขึ้นมาจุดไฟแห่งความหวังอีกครั้ง ในเวที SME Thailand Future Day 2026 ด้วยแนวคิด "BEYOND THE CRISIS กลยุทธ์ SME ฝ่าวิกฤติ 2026" เพื่อบอกกับผู้ประกอบการไทยทุกคนว่า..
"เราจะไม่แค่รอด...แต่จะ ‘รุก’ สู่อนาคตใหม่ของเศรษฐกิจไทย"
เมื่อโลกกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรม ผู้ประกอบการ SME ไทยจึงจำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมภายใต้แนวทางใหม่ เพื่อยกขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมสร้างความยืดหยุ่น และสร้างความยั่งยืน
นโยบาย 4 พลังขับเคลื่อน: ฝ่า ฟัน ดึง ดัน
กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทย โดยมีเป้าหมายคือการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยนโยบาย "ฝ่า ฟัน ดึง ดัน" ดังนี้
1. ฝ่า : รับมือปัญหาเร่งด่วนและเสริมสภาพคล่อง
- เร่งช่วยเหลือ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและมาตรการภาษีตอบโต้
- เสริมสภาพคล่อง ด้วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เร่งบรรเทาหนี้สิน และสนับสนุนโครงการต่างๆ เช่น โครงการสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน High Season หรือ "เงินไวใบดีพร้อม" เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนไปจัดซื้อวัตถุดิบหรือขยายกำลังการผลิต
- ยกระดับมาตรฐานไทยด้วยระบบการรับรองที่ดี (Big Quick Big Win) โดยเน้นให้ผู้ประกอบการปรับตัวสู่ระบบการผลิตที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม การรับรองนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐานสากล แต่ยังช่วยลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ปรากฏการณ์อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญและการสวมสิทธิ์สินค้าไทย
2. ฟัน : ตัดระเบียบอุตสาหกรรมอย่างเด็ดขาด
- ปราบปรามโรงงานผิดกฎหมาย และการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สินค้าปลอม หรือสินค้าเลียนแบบเครื่องหมายการค้า
- บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และยุติธรรม ภายใต้นโยบาย "ปิดเร็ว เปิดเร็ว พึ่งพาได้"
- จัดตั้งเครือข่ายเฝ้าระวังสินค้าด้อยคุณภาพทั่วประเทศ ภายใต้ระบบ มอ. Watch เพื่อสร้างความเชื่อมั่น
3. ดึง : เดินหน้าดึงเม็ดเงินลงทุนและพลังงานสะอาด
- มีเป้าหมายหลักคือการขับเคลื่อน BCG (Bio-Circular-Green) และพลังงานสะอาด เพื่อยกระดับการผลิต ลดคาร์บอน และลดต้นทุนพลังงาน
- สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน ด้วยการปรับปรุงกฎระเบียบและลดขั้นตอนที่ซับซ้อน
4. ดัน : วางรากฐานอุตสาหกรรมอนาคต
- ผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ ดิจิทัล AI อาหารแห่งอนาคต ชีวเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เช่น การแพทย์ เทคโนโลยีสุขภาพ
- พัฒนาทักษะแรงงานอย่างเป็นระบบ ทั้งการ Upskill แรงงานเดิมให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ และการ Reskill แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโครงสร้างเศรษฐกิจให้สามารถเปลี่ยนไปทำงานในอุตสาหกรรมอนาคตได้ เช่น จากภาคเกษตรสู่ชีวเศรษฐกิจ
มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ในปี 2026 ธุรกิจไทยจำเป็นต้องปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data), ความเร็ว และความเข้าใจลูกค้า
- ดิจิทัลและ AI จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
- ผู้ประกอบการควรนำข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการบริหารจัดการ ตั้งแต่กระบวนการทำการตลาด การบริหารสต๊อกสินค้า และการบริการลูกค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
- ความยั่งยืน (Sustainability) ไม่ได้หมายถึงสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการดำเนินธุรกิจที่ลูกค้ายอมรับ โลกยอมรับ และองค์กรมีความสุข
กระทรวงอุตสาหกรรมเชื่อมั่นว่า SME ไทยคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เราจะคาดคิด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ "หัวใจของผู้ประกอบการไทย" หัวใจที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
ความกล้าเริ่มต้นใหม่ คือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทำให้ผู้ประกอบการไทยยืนหยัดและก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปรวดเร็วเพียงใดก็ตาม
กระทรวงอุตสาหกรรมตระหนักดีว่า การช่วยให้ SME รอดอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราต้องทำให้ SME ไทยพร้อมที่จะเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว และพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็น "พี่เลี้ยง" และ "ผู้สนับสนุน" ให้ SME ไทยก้าวข้ามวิกฤตและเติบโตได้อย่างยั่งยืน.


