แก้วิกฤติร้านอาหารเปราะบาง KCG จุดไฟ SME กรุงเทพฯ ตอกย้ำเมืองอาหารอันดับ 2 โลก
ร้านอาหารและเบเกอรี่อยู่ในช่วงเปราะบาง จากข้อมูลพบว่า มีอัตราการปิดตัวสูงในช่วง 1-3 ปีแรก โดยเฉพาะกรุงเทพฯ แม้ถูกยกเป็นเมืองอาหารอันดับ 2 ของโลก แต่การแข่งขันสูง
KEY
POINTS
- ร้านอาหารและเบเกอรี่อยู่ในช่วงเปราะบาง จากข้อมูลพบว่า มีอัตราการปิดตัวสูงในช่วง 1-3 ปีแรก
- โดยเฉพาะกรุงเทพฯ แม้จะถูกยกเป็นเมืองอาหารอันดับ 2 ของโลก แต่การแข่งขันสูง
- เพื่อแก้วิกฤตคนตัวเล็ก KCG จับมือ กทม.จัดโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2” เสริมความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและเบเกอรี่ ครอบคลุมทั้งด้านการบริหารธุรกิจ และการจัดการครัวอย่างมืออาชีพ
แม้ SME จะเป็นหัวใจของเศรษฐกิจไทย และกรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งอาหารอันดับ 2 ของโลก แต่ในขณะเดียวกันสถานการณ์ร้านอาหารและเบเกอรี่จำนวนมากยังเปราะบาง มีอัตราการปิดตัวสูงโดยเฉพาะ 1-3 ปีแรก
ดำรงชัย วิภาวัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG กล่าวว่า SME มีความสำคัญต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก เปรียบได้กับกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย จากข้อมูลจำนวน SME พ.ศ. 2567 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ประเทศไทยมี SME ทั้งหมด 3,272,478 ราย คิดเป็น 99.5% ของกิจการทั้งหมด เฉพาะ SME ในกทม.มีสูงถึง 548,237 ราย คิดเป็น 16.8% หรือมีมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ กล่าวได้ว่า SME คือ หัวใจเศรษฐกิจเมือง แต่ในขณะเดียวกันตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็น SME มีการแข่งขันสูงมาก
- สถิติปิดตัวตั้งแต่ 1-3 ปีแรก
จากข้อมูลพบว่า ร้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย มากกว่า 50% ปิดตัวภายในปีแรก และ กว่า 65% ไม่รอดภายในสามปี ถึงแม้ข้อมูลจาก Time Out’s World’s Best Cities for Food 2023 กรุงเทพฯ จะถูกจัดอันดับให้เป็น เมืองแห่งอาหารอันดับ 2 ของโลกก็ตาม ดังนั้นเพื่อลดอัตราความล้มเหลวในการเริ่มต้นธุรกิจ และไม่ให้มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง จึงต้องยกระดับกันไปทั้งห่วงโซ่ธุรกิจอาหาร ผ่านทักษะทางธุรกิจ และทักษะการสร้างสรรค์รสชาติ
- ออกแบบหลักสูตรตั้งแต่ในครัวจนถึงธุรกิจ
KCG ในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ที่คร่ำหวอดมากว่า 67 ปี KCG เดินหน้าต่อยอดขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของไทย” สู่การแก้ปัญหาในสังคม ผ่านโครงการ “จุดไฟปรุงฝัน ปีที่ 2 รุ่น 2” ซึ่งเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง KCG และกรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันออกแบบ “หลักสูตรเสริมพลังผู้ประกอบการอาหารยุคใหม่” ให้ตอบโจทย์ทั้งด้าน การพัฒนาทักษะอาชีพ และ การสร้าง Soft Power จากอาหารไทย เพื่อยกระดับร้านอาหารและเบเกอรี่ SME ของกรุงเทพฯ ให้มีระบบธุรกิจที่แข็งแรง ตั้งแต่ความรู้นอกครัวไปจนถึงในครัว ถือเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนา “คนตัวเล็ก” ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการจุดไฟปรุงฝัน ครั้งที่ 2 (รุ่น 2) หลักสูตรที่ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องอาหารไปจนถึงธุรกิจ เช่น เรื่องของ Branding เคล็ดลับการสร้างแบรนด์ให้แตกต่าง Marketing ทำการตลาดออนไลน์ง่ายๆ ด้วย AI สำหรับร้านอาหารและเบเกอรี่ หรือแม้แต่ Finance ความรู้พื้นฐานการบริหารบัญชีและการเงิน สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี
นอกจากนี้ ในด้านอาหาร ยกระดับจากครัวเล็กสู่ครัวระดับมืออาชีพ มีหลักสูตร Kitchen Management การบริหารจัดการครัวอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่มาตรฐานการผลิต การคุมคุณภาพวัตถุดิบ และการจัดการต้นทุนอาหารให้ร้านรอดและโตได้จริง
Signature Menu ออกแบบเมนูซิกเนเจอร์สร้างความโดดเด่นและขายได้จริง โดยรุ่นสองเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 18 กันยายน - 3 ตุลาคม 2568 โดยประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ถึง วันที่ 9 ธันวาคม 2568 รวมทั้งสิ้นจำนวน 7 ครั้ง
“เชื่อว่า อาหารที่ดี สร้างชีวิตที่ดีได้ และ SME คือกลไกหลักในการขับเคลื่อน
เศรษฐกิจเมือง โดยที่อาหารคือหนึ่งใน Soft Power ที่แข็งแรงที่สุดของกรุงเทพฯ การร่วมมือระหว่าง KCG และกรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาคนตัวเล็กให้เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจและเมือง เพราะท้ายที่สุด ทุกคนคือพลังสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารไทยที่จะก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน” นายดำรงชัย กล่าว


