posttoday

Gen Z ปลุกเทรนด์ Coffee Rave ปาร์ตี้กาแฟ อยากสนุกแต่ไม่อยากเมา

18 กันยายน 2568

ธุรกิจกาแฟ-ธุรกิจกลางคืนมีหนาว เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคไม่เหมือนเดิม Gen Z “อยากสนุกแต่ไม่อยากเมา” เทรนด์ใหม่มาแรง จัด “Coffee Rave” ปาร์ตี้กาแฟกลางวัน จิบกาแฟไปเต้นไป

วงการธุรกิจกาแฟและสถานบันเทิงยามค่ำคืน กำลังเผชิญหน้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z หันหลังให้แอลกอฮอล์และหันมาสนใจสุขภาพกาย–ใจมากขึ้น หลายงานวิจัยชี้ว่าอัตราการดื่มของ Gen Z ต่ำกว่าคนรุ่นก่อนราว 20% และในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 35 ปี ตัวเลขผู้ดื่มลดจาก 72% เหลือเพียง 62% เท่านั้น

 

ผลลัพธ์ที่ตามมา คือกระแส “Sober Curious” ที่เน้นความสนุกโดยไม่พึ่งเหล้าเบียร์ เปิดทางให้เกิดวัฒนธรรมใหม่ ที่เรียกว่า “Coffee Rave” หรือ “Day Club” ปาร์ตี้กาแฟตอนกลางวัน ผสานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับบรรยากาศคาเฟ่

 

Sober Curious คืออะไร?

 

กระแส Sober Curious หรือความอยากสนุกแต่ไม่อยากเมาแอลกอฮอล์ เป็นที่นิยม คนกลุ่มนี้ต้องการ "อยากเท่แต่ไม่อยากเละเทะ" คืออยากมีไลฟ์สไตล์ที่ดูดี มีกิจกรรมทางสังคม แต่ไม่ต้องการผลข้างเคียงจากการดื่มแอลกอฮอล์ 

 

Coffee Rave และ Day Club ปาร์ตี้ดนตรีไร้แอลกอฮอล์ในเวลากลางวัน

 

Coffee Rave หรือ Day Club คือเทรนด์ที่นำดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เทคโน (Techno), EDM (Electronic Dance Music) หรือ เฮาส์ (House) ซึ่งปกติจะเปิดในสถานบันเทิงกลางคืน มาเปิดในร้านกาแฟช่วงกลางวัน โดยมีดีเจมาเปิดแผ่นและผู้คนสามารถเต้นได้ เทรนด์นี้เริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยเฉพาะในย่านอารีย์ ทองหล่อ และเจริญกรุง ที่เริ่มมีร้านกาแฟหลายแห่งจัดกิจกรรมดังกล่าว ยกตัวอย่างเช่น "มัทฉะ เรฟ" (Matcha Rave) ที่มีการเปิดเพลง EDM พร้อมชาเขียวตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า

 

กระแสนี้เริ่มมาจากไหน?

 

กระแสนี้มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอังกฤษ ซึ่งมีการจัดปาร์ตี้ใต้ดินตามโกดังร้าง หรือทุ่งนาพร้อมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงต้นยุค 2010s วัฒนธรรมนี้ได้พัฒนามาสู่การจัดปาร์ตี้ในตอนกลางวันโดยไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ กลายเป็น Morning Rave และวิวัฒนาการมาเป็น Coffee Rave Culture ในปัจจุบัน

 

สำหรับประเทศที่มี Coffee Rave / Morning Daytime Party พบว่า มาเลเซีย ที่กัวลาลัมเปอร์มีงาน “Rise and Rave Coffee Raves” จัดในช่วงเช้า ผสมผสานกาแฟกับบีตจากดีเจ โดยไม่มีแอลกอฮอล์หรือที่ อินเดีย หลายเมือง เช่น Bengaluru, Mumbai, Delhi และ Indore จัด Coffee Rave / Sober Morning Parties ในคาเฟ่และพื้นที่สร้างสรรค์

 

เกาหลีใต้ ที่โซลมี “Seoul Morning Coffee Club’s Morning Rave” เริ่มต้นเช้าตรู่ราว 7.00–10.00 น. ในคาเฟ่และสเปซกลางเมือง ขณะที่สิงคโปร์ Gen Z หันมาสนใจกิจกรรม Daytime Rave แบบไร้แอลกอฮอล์ จัดในคาเฟ่หรือเวนูทางเลือก เช่นอีเวนต์ “Beans & Beats” ที่ผสมดนตรีกับกาแฟ

 

อินโดนีเซีย ที่บาหลี–ชังกู มีงาน “Coffee and Cacao Morning Rave” จัดราว 9 โมงเช้า ใช้ดนตรี house เบา ๆ ในคาเฟ่หรือสเปซกลางแจ้ง ,สหรัฐฯ บางเมือง เช่น Houston มีการจัด Daytime Rave ในคาเฟ่ โดยใช้ house music และงดแอลกอฮอล์เป็นจุดขาย

 

Coffee Rave ในไทย

 

ในประเทศไทยมีหลายพื้นที่เริ่มจัดอีเวนท์ลักษณะนี้เช่น Bangkok’s Coffee Party โดยทีม Sawasdee Cup Coffee Party ที่คาเฟ่ CRAFT, Kimpton Maa-Lai มีดีเจชื่อดังอย่าง Dennis Gold หรือจะเป็น Pawffee Rave โดยทีม Before Midnight ปาร์ตี้ที่พาสัตว์เลี้ยงมาร่วมสนุกได้ (เพิ่งจัดไปเมื่อเดือน กรกฎาคม 2568)

 

Morning Affair โดย Tictactoe x RISE Coffee ที่ Emsphere ผสมดนตรีกับม็อกเทลกาแฟและเมนูซิกเนเชอร์ เพิ่งจัดครั้งล่าสุดไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2568 เช่นกัน

 

Credit: RISE COFFEE

ธุรกิจร้านกาแฟปรับตัวรับอีเว้นท์

 

ทั้งนี้ความนิยมของ Coffee Rave และ Day Club เกิดจากหลายปัจจัย นายธนพงศ์ วงศ์ชินศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการทำธุรกิจร้านอาหาร เจ้าของร้านอาหารชาบู Penguin Eat Shabu และผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้ด้านธุรกิจร้านอาหารชื่อ Torpenguin สรุปถึงเทรนด์นี้ว่า 

 

พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป เทรนด์นี้ตอบรับกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ที่ลดการดื่มแอลกอฮอล์ และมองหาสถานที่ที่สามารถสนุกสนานและแสดงออกถึงตัวตนได้โดยไม่ต้องดื่มของมึนเมา การเข้าร้านกาแฟไม่ได้ต้องการแค่กาแฟ แต่ต้องการ "บอกว่าฉันเป็นคนแบบนี้" ผ่านร้านกาแฟ

 

"Cost Activity" การรวมกิจกรรมหลายอย่างในสถานที่เดียว ธุรกิจร้านกาแฟในปัจจุบันการขายกาแฟอย่างเดียวทำกำไรได้ไม่มากและยอดใช้จ่ายต่อหัวต่ำ การจัดกิจกรรมเสริม เช่น การจัดนิทรรศการ, ฟังดนตรีสด, ทำงาน, ประชุม, หรืออบรม จึงช่วยเพิ่มจุดขายและตอบรับลูกค้าได้หลากหลายขึ้น

 

ข้อควรพิจารณาสำหรับร้านกาแฟที่ต้องการทำ Coffee Rave การจะทำให้ร้านกาแฟกลายเป็น Coffee Rave หรือ Day Club ที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ทำเล ควรอยู่ในหัวเมืองใหญ่หรือจังหวัดที่มีคนรุ่นใหม่ที่เปิดรับกิจกรรมใหม่ ๆ

 

บรรยากาศร้าน ต้องมีบรรยากาศที่ดีในตอนกลางวัน อาจมีการหรี่ไฟ เพื่อสร้างสไตล์และภาพลักษณ์ที่ชัดเจน

 

เพลงและระบบเสียง เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นดีเจ รูปแบบเพลงที่เลือก หรือแม้กระทั่ง เครื่องเสียงในร้าน การลงทุนในระบบเสียงที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น ร้านควรออกแบบการจัดวางลำโพงโดยคำนึงถึงขนาดและความสูงของร้าน เพื่อลดเสียงสะท้อนและให้ได้เสียงที่ดีที่สุด อาจพิจารณาใช้ลำโพงแบบ Active ที่มี Power Amp ในตัว เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อ และหากต้องการเสียงเบสที่จริงจัง ควรมี Subwoofer ด้วย

 

นายธนพงศ์ กล่าวว่าในปัจจุบัน ธุรกิจอาหารและดนตรีเริ่มกลายเป็นเรื่องเดียวกัน สำหรับผู้ที่สนใจกระแส Coffee Rave หรือ Day Club ควรทำการบ้าน ศึกษาคอมมูนิตี้เพื่อหาแนวทางเตรียมรับเทรนด์ผู้บริโภค

 

 

 

Source : https://m.youtube.com/watch?feature=youtu.be&fbclid=IwZnRzaAM3rW5leHRuA2FlbQIxMQABHgLuneAvRDsTjJKpbf8uNpeyLF87cx50pukUYu_nTk4MLBXYrRCybPq2wiNF_aem_NJwyx91WqKpN4mqJoVMueA&si=l173fWiX9f3u5hCh&v=Bn1vKBgIBYE

 

ข่าวล่าสุด

ปภ.เผยน้ำท่วมใต้เหลือ 4 จังหวัด เร่งฟื้นฟู–เยียวยาต่อเนื่อง