posttoday

เปิดตัว NIA Venture ดึงรัฐ–เอกชน ลงทุนสตาร์ตอัพได้โดยตรง

19 สิงหาคม 2568

NIA เปิดตัว NIA Venture ดึงเม็ดเงินรัฐ–เอกชน เข้าลงทุน ถือหุ้นสตาร์ตอัพได้โดยตรง คาดกรอบวงเงินรวม 4 พันล้านบาท

ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า NIA กำลังจะเปิดตัว NIA Venture กลไกใหม่ที่จะเข้ามาเสริมทัพกลไกสนับสนุนเดิมของ NIA ตอนนี้ได้มีการแก้ไขปรับวัตถุประสงค์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเสนอ ครม. เพื่อให้สามารถร่วมลงทุนและถือหุ้นในสตาร์ตอัพได้โดยตรง 

 

NIA Venture จะจัดตั้งในรูปแบบ ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน (PE Trust) ดึงเม็ดเงินลงทุนจากเอกชนมาร่วมด้วย คาดมีกรอบวงเงินประมาณ 4,000 ล้านบาทแบ่งเป็นเงินภาครัฐ 1,000 ล้านบาท และจากเอกชน 3,000 ล้านบาท

 

ซึ่งที่ผ่านมามีเอกชนแสดงความสนใจเข้าร่วมบ้างแล้ว และพร้อมเปิดโอกาสให้ Venture Capital (VC) ต่างชาติเข้าร่วม โดยเงินลงทุนต้องลงในสตาร์ทอัพไทย หรือสตาร์ทอัพต่างชาติได้ แต่ต้องทำธุรกิจในไทย เพื่อสร้าง Impact ในประเทศไทย

 

ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า กลไก Joint Venture ที่ NIA กำลังผลักดัน มุ่งเน้นเป็นพิเศษในกลุ่มสตาร์ทอัพเนื่องจากการลงทุนส่วนใหญ่ในลักษณะนี้มักเริ่มจากธุรกิจที่อยู่ในระยะเริ่มต้น แต่หากเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูง ก็สามารถเข้ามาใช้กลไกนี้ได้เช่นกัน

 

จุดแข็งของโมเดลนี้หากพิจารณาเพียงเงินลงทุนจากภาครัฐ เช่น การลงเงิน 1,000 ล้านบาท ผลลัพธ์อาจมีข้อจำกัด แต่เมื่อใช้กลไกนี้ เราสามารถดึงการลงทุนจากภาคเอกชนเข้ามาร่วมได้ สมมติรัฐลงทุน 1,000 ล้านบาท และเอกชนลงทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท จะเท่ากับเกิดการลงทุนรวม 4,000 ล้านบาท หรือเป็นสัดส่วน 1:3

 

ดังนั้น หากสตาร์ทอัพหนึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 100 ล้านบาท ก็จะได้รับการลงทุนจากเอกชนเพิ่มอีก 300 ล้านบาท รวมเป็น 400 ล้านบาททันที สิ่งนี้ทำให้สตาร์ทอัพมีศักยภาพเติบโตสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะหากพึ่งพาเงินทุนรัฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักล้านถึงไม่เกิน 10 ล้านบาท ย่อมไม่เพียงพอในการผลักดันให้เติบโตสู่ระดับ Unicorn ได้

 

ปิดช่องว่าง Series A สู่ Series B

 

จุดสำคัญที่กลไกนี้ตอบโจทย์คือการ ปิดช่องว่างของการระดมทุนในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Series A ไปสู่ Series B ซึ่งเป็นจังหวะที่สตาร์ทอัพต้องการเงินทุนจำนวนมากเพื่อขยายธุรกิจ แต่ยังไม่เป็นที่สนใจของ VC มากนัก ต่างจากหลัง Series B ที่นักลงทุนพร้อมเข้ามาเองแล้ว

 

ดังนั้นกองทุนนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยสตาร์ทอัพก้าวข้าม “ช่วงตั้งไข่” ที่ยากที่สุดไปให้ได้

 

ที่ผ่านมา NIA สนับสนุนสตาร์ทอัพผ่านหลายกลไก เช่น Open Innovation ทุนไม่เกิน 1.5 ล้านบาท, Standard Testing และ Market Expansion, รวมถึง นวัตกรรมดีไม่มีดอกเบี้ย ปีหน้า NIA จะปรับกลไกการเงินให้สอดรับกับนโยบายรัฐและธนาคารพาณิชย์ โดยเฉพาะสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 1.5% พร้อมสนับสนุนธุรกิจ Green Transformation 

 

“ที่ผ่านมาเราใช้โมเดล Corporate Funding ที่ NIA ไม่ถือหุ้น แต่จากนี้ NIA Venture จะเป็น Matching Fund ที่เข้าถือหุ้นร่วมกับสตาร์ตอัพ ช่วยต่อยอด Ecosystem หลังจากกองทุนพันธมิตรหลายกองสิ้นสุดอายุในปีนี้” ดร.กริชผกาเผย

 

ข่าวล่าสุด

LIVE ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อีสปอร์ต FC Mobile ไทย พบ เวียดนาม นัดชิงฯ วันนี้