TikTok แจงไม่ได้ผูกขาดตลาดไทย เดินหน้าปั้นสินค้าสู่แบรนด์ SME
TikTok โต้กระแสข่าวผูกขาด ยันเปิดรับระบบขนส่งทุกระบบ พร้อมตรวจสอบคุณภาพร้านค้าอย่างต่อเนื่อง เดินหน้าปั้นสินค้าไทยสู่แบรนด์ SME สร้างการเติบโตยั่งยืน
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy for Southeast Asia TikTokเปิดเผยกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า TikTok ไม่ได้ผูกขาดการตลาดอีคอมเมิรซ์ โดยเฉพาะเรื่องการขนส่ง เนื่องจากในระบบร้านค้าของ TikTok เปิดกว้างให้กับทุกค่าย ซึ่งปัจจุบันมีทั้ง ไปรษณีย์ไทย , เจ แอนด์ ที และ แฟลช เอ็กซ์เพรส แต่การเลือกระบบขนส่งต้องขึ้นอยู่กับผู้ค้าว่าจะเลือกเจ้าไหนส่งของให้ลูกค้า ซึ่งมาจากปัจจัยหลายด้าน เช่น ความใกล้ การบริการ หรือ ค่าส่ง เป็นต้น และ เจ แอนด์ ที เอง ก็ไม่ได้เป็นบริษัทของ TikTok
ส่วนประเด็นสินค้าจีนทะลักเข้ามาในระบบจนอาจมีปัญหาด้านคุณภาพสินค้านั้น TikTok ยืนยันว่า TikTok มีทีมเฉพาะแบบมืออาชีพในการตรวจสอบสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ก่อนที่จะนำมาติดตระกร้า รวมถึงมีมาตรการเข้มข้นในการตรวจสอบระหว่างการขายบนระบบอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สามารถขอดูข้อมูล ร้องเรียน และตรวจสอบการทำงานของ TikTok ได้ตลอดเวลา เงินที่เข้ามาในตระกร้าเข้ามาในระบบของบริษัทที่จดทะเบียนในไทย และเสียภาษีอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม TikTok ยังเตรียมเปิดตัว 50 SME ที่เติบโตมากับ TikTok โดยเริ่มขายสินค้าในระบบของ TikTok ตั้งแต่ยังไม่มีแบรนด์ของตนเอง ทำให้ TikTok อยากมีส่วนร่วมในการผลักดันและพัฒนาให้ SME เหล่านี้เป็นต้นแบบในการพัฒนาแบรนด์ของตนเองจนกลายเป็นผู้ประกอบการไทย ทำให้เห็นว่า TikTok ไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มที่มีแต่ครีเอเตอร์รับจ้างขายของเท่านั้น ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์แพดที่มียอดขายจำนวนมากและพัฒนาเป็นแบรนด์ของตนเองโดยแคมเปญใหม่นี้ จะเปิดตัวภายในสัปดาห์หน้า
อนึ่ง ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท ติ๊กต๊อก ช็อป (ประเทศไทย) จำกัด มีผลประกอบการ 1.2 หมื่นล้านบาท ขาดทุน 3.7 พันล้านบาท โดย ติ๊กต๊อก ช็อป เพิ่งเปิดให้บริการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยในวันที่ 8 พ.ย. 2566 ปัจจุบันมีร้านค้าอยู่ในระบบประมาณ 3 ล้าน ร้านค้า และมีผู้ใช้งาน TikTok ประมาณ 50 ล้านคน


