posttoday

ส่องทิศทางอุตฯ การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์ ดีมานด์โตรับเศรษฐกิจสีเขียว

06 สิงหาคม 2568

สภาอุตฯ ผนึก เมสเซ่ฯ และ 3 สมาคมยักษ์ใหญ่ ชวนส่องทิศทางอนาคต อุตฯ การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์-กระดาษลูกฟูก ดีมานด์โตไม่หยุด ผ่าน Pack Print International 2025 และ CorruTec 2025 ชูศักยภาพผู้นำอาเซียน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน สถานการณ์ระหว่างประเทศที่ผันผวน รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ 

 

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมไทยยังคงแสดงสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรม (GDP) ในไตรมาส 1 ของปี 2568 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนถึงศักยภาพในการปรับตัวและสัญญาณบวกในภาคอุตสาหกรรม ทางสภาอุตสาหกรรมจึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะเร่งยกระดับขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้บนเวทีโลกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต การเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม การผลักดันมาตรฐานด้านความยั่งยืน ตลอดจนการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนห่วงโซ่การผลิตและการส่งออกของประเทศ ซึ่งมีบทบาทต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันภาคธุรกิจเหล่านี้ได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องผ่านการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) มาเสริมความสามารถในการแข่งขันและสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน 

 

ทั้งนี้จากแนวโน้มดังกล่าวฯ ยังสะท้อนผ่านอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ของไทยที่เติบโตขึ้นราว 4 - 4.2% คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 350,000 ล้านบาท แบ่งเป็นอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ 60% และอุตสาหกรรมการพิมพ์ 40% โดยคาดว่าในปี 2569 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 4.7% ซึ่งถือเป็นจังหวะสำคัญในการยกระดับศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในเวทีโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

จัดมหกรรมสินค้าด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์

 

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย พร้อมด้วยสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย สมาคมการพิมพ์ไทย และสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย เตรียมจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์การพิมพ์ครั้งที่ 10 และกระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย ครั้งที่ 3 (Pack Print International 2025 และ CorruTec Asia 2025) ระหว่างวันที่ 17-20 กันยายน 2568 เป็นงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับเข้าถึงตลาดโลก โดยเฉพาะภาคส่วน SME ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และหลายธุรกิจจำเป็นต้องพึ่งพากระบวนการทางด้านการพิมพ์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ 

 

โดยงานในปีนี้ ได้มีการออกแบบพื้นที่กิจกรรมให้รองรับผู้ประกอบการไทยทุกระดับในหลายโซน สะท้อนความตั้งใจของผู้จัดงานในการผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างทั่วถึง พร้อมเปิดประตูสู่เวทีโลก ไม่ใช่เฉพาะผู้ผลิตรายใหญ่ แต่รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และกลุ่มสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูง

 

ส่องทิศทางอุตฯ การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์ ดีมานด์โตรับเศรษฐกิจสีเขียว

ผู้ประกอบการอุตฯ การพิมพ์-บรรจุภัณฑ์-ลูกฟูก ขานรับเทรนด์ยั่งยืน

 

ด้านนายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการบริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกแห่งภูมิภาคเอเชีย (Pack Print International 2025 and CorruTec Asia 2025) ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Uncovering Total Solutions for the Packaging and Printing Industries” จะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบพิมพ์อัจฉริยะ โซลูชันดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และ AI โดยมุ่งหวังให้เวทีนี้เป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยและต่างชาติในการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในเวทีโลก ท่ามกลางบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

“จากความสำเร็จของงานปี 2566 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 12,000 คนจากทั่วโลก การจัดงานในปี 2568 นี้นับเป็นวาระครบรอบ 10 ปีของงาน Pack Print International และปีที่ 3 ของงาน CorruTec Asia ซึ่งจะมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีผู้แสดงเทคโนโลยีกว่า 300 บริษัทชั้นนำ จาก 20 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา จีน มาเลเซียและเวียดนาม ผู้ร่วมงานจะได้พบกับไฮไลต์นวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์เทรนด์โลก ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Economy) เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย (Safety & Security) และบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability) 

 

อุตสาหกรรมการพิมพ์ยังโต แม้โลกหมุนสู่ดิจิทัล 

 

ขณะที่นายพงศ์ธีระ พัฒนพีระเดช นายกสมาคมการพิมพ์แห่งประเทศไทย เผยว่า อุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยยังคงเป็นภาคการผลิตที่มีบทบาทสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากแรงหนุนของตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตควบคู่กับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ แม้สื่อสิ่งพิมพ์จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แต่ภาพรวมอุตสาหกรรมการพิมพ์ในประเทศยังมีทิศทางเติบโต 

 

โดยมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 350,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศ นอกจากนี้ ยังคาดว่าภาคส่วนของการพิมพ์ดิจิทัลจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 6.64% ภายในปี 2570 ซึ่งเป็นผลจากการปรับตัวของผู้ประกอบการที่หันมาใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น การพิมพ์ฉลากอัจฉริยะ (Smart Label) รวมถึงการผสานสื่อสิ่งพิมพ์เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล และให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

 

“สิ่งสำคัญอีกประการที่สมาคมการพิมพ์ฯ ให้ความสำคัญ คือการเสริมสร้างองค์ความรู้ผ่านการเปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนข้อมูล สร้างเครือข่ายความเชื่อมโยงในภาคอุตสาหกรรมระหว่างกัน เพื่อให้เท่าทันและพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกัน สมาคมการพิมพ์ฯ ยังร่วมผลักดันภาคส่วนธุรกิจขนาดเล็กและกลางให้กลายเป็น SMART enterprise ด้วยการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการ” 

 

สมาคมบรรจุภัณฑ์ปรับตัวสู่รีไซเคิล

 

นายวิวัฒน์ อุตสาหจิต นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย ระบุว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดสำหรับบรรจุภัณฑ์ทั่วโลก ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว และการขยายตัวของประชากรในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 


สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนการขยายตัวของภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การขยายตัวของฐานการผลิตในประเทศไทย รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ภาคอุตสาหกรรมเร่งปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ 


โดยตลอดปี 2568 – 2570 คาดว่าอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทยจะมีการเติบโตต่อปี (CAGR) ราว 5.3%  ซึ่งในปี 2568 ประมาณการอยู่ที่ 572,000 ล้านบาท สะท้อนถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของตลาดนี้ที่ยังเปิดกว้างและมีความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งในประเทศและตลาดส่งออก


นอกจากนี้ การเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะคิดเป็น 23% ของยอดค้าปลีกทั่วโลกภายในปี 2570 ยังได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการกำหนดประสบการณ์ของลูกค้าและเอกลักษณ์ของแบรนด์ และการเติบโตนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของปริมาณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพฤติกรรมความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ต้องมีน้ำหนักเบาเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในการขนส่ง การช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ยังต้องเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่น่าจดจำ ซึ่งเสริมสร้างความผูกพันกับแบรนด์กับผู้บริโภค 

 

“ทั้งนี้ สมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทยยังมุ่งมั่นในการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แห่งอนาคต ควบคู่กับการส่งเสริมองค์ความรู้ การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อพัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และบุคลากรให้พร้อมแข่งขันในระดับสากล รวมถึงเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และการแข่งขันจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในเวทีอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ระดับภูมิภาค”                        

 

บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก ขยายตัวจากอีคอมเมิร์ซ

 

นายชาธิป ตั้งกุลไพศาล เลขาธิการสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย เผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกของไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตอยู่ที่ 2 เท่าของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศไทย มีแรงขับเคลื่อนหลักจากการเติบโตของภาคอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจโลจิสติกส์ที่มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ส่งผลโดยตรงต่อความต้องการบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องพัสดุที่ทั้งแข็งแรง น้ำหนักเบา และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในมุมของผู้ผลิตและผู้ใช้งาน

 

“แม้บรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกจะเป็นวัสดุพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องสินค้าและขับเคลื่อนอุตสาหกรรม แต่ในยุคที่การแข่งขันสูง เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และสถานการณ์โลกผันผวน สมาคมฯ จึงเร่งส่งเสริมและผลักดันผู้ผประกอบการในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาปรับใช้ พร้อมดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และยืนหยัดเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดโลก” 


 

ข่าวล่าสุด

ระบบยืนยันอายุผู้ใช้โซเชียล ป้องกันเยาวชนแอบใช้หลังสั่งห้าม