สุวัจน์ชี้ทางรอด SME ไทย แนะพึ่งโมเดิร์นเทรด ฝ่าสงครามการค้า
รับมือสงครามการค้า ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ! สุวัจน์ชี้ทางรอด SME ไทย ต้องเข้าถึงตลาดใหญ่ผ่านเครือข่ายโมเดิร์นเทรด
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมโคราชโฮเต็ล นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ "Scale up สู่ตลาดใหญ่ ไฉไล และยั่งยืนกว่าเดิม"
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสมาพันธ์ SME ไทย, ธนาคารออมสิน และ Tops ท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)
นายสุวัจน์ กล่าวว่า กิจกรรมการจับคู่ธุรกิจในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) สามารถเข้าถึงช่องทางการตลาดที่กว้างขวางขึ้น ผ่านเครือข่ายของโมเดิร์นเทรด
“ผู้ประกอบการ SME เป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจ มีบทบาทในการจ้างงาน และเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานรากกับภาคธุรกิจขนาดใหญ่” นายสุวัจน์กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่า
“อยากให้พวกโมเดิร์นเทรดใหญ่ๆ ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ตามเมืองใหญ่ๆ ได้มีความร่วมมือกันในการเปิดโอกาสที่จะรับสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป สินค้าจาก SME ไปวางขายเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด“
รับมือความท้าทายเศรษฐกิจและสงครามการค้า
นายสุวัจน์ยังได้แสดงความกังวลต่อปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งความตึงเครียดตามแนวชายแดน, การชะลอตัวของภาคการท่องเที่ยว
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากสงครามการค้าและการปรับขึ้นภาษีการค้าระหว่างประเทศจากสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม นายสุวัจน์ชี้ว่า รัฐบาลไทยยังสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันไว้ได้ในระดับหนึ่ง จากการเจรจาอัตราภาษีการค้าให้อยู่ที่ 19% ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
แนะรัฐอัดฉีด "ตลาดและเงินทุน" ช่วย SME
ในช่วงท้าย นายสุวัจน์ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ทั้งในมิติของ "การตลาด" และ "แหล่งเงินทุน" เพื่อให้สามารถปรับปรุงกิจการและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น
“วันนี้ เราจำเป็นต้องช่วยผู้ประกอบการทั้งในด้านตลาดและเงินทุน เพื่อรักษาธุรกิจไว้ รักษาการจ้างงาน และเสริมรากฐานเศรษฐกิจให้เข้มแข็งในระยะยาว” นายสุวัจน์กล่าวสรุป
โครงการดังกล่าวมีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, ดร.ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และผู้บริหารจากธนาคารออมสิน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนและผลักดันศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน


