น้ำแร่ ขวดละ 4 บาท “ชาร์ลสเฮาส์โฟลว” เมดอินสุรินทร์ หรูแต่เข้าถึงได้

กระแส “Charles House Flow หรือ ชาร์ลสเฮาส์โฟลว" น้ำแร่แบรนด์น้องใหม่ กำลังมาแรงในโซเชียลและกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร ด้วยจุดขายบรรจุภัณฑ์ที่ดูหรูหราเหมือนน้ำแร่จากต่างประเทศ ทั้งที่ทำราคาต่ำเฉลี่ยเพียงขวดละ 4.06 บาท (ยกแพ็ก 15 ขวด ราคา 61 บาท) กลายเป็นกรณีศึกษาสำคัญของการตลาดแนว Affordable Luxury หรือความหรูหราที่เข้าถึงได้ โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหารและคาเฟ่ที่มองหาสินค้าดีไซน์โดดเด่น เสริมภาพลักษณ์โดยไม่เพิ่มต้นทุน 

ด้วยภาพลักษณ์หรูหราน่าดื่มคล้ายน้ำแร่นำเข้า แต่ผลิตจากโรงงานในจังหวัดสุรินทร์ แพ็กเกจขวดพลาสติกสีฟ้าใสของ Charles House Flow ถูกออกแบบให้คล้ายขวดแก้วของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Perrier หรือ Evian แต่ราคาย่อมเยากว่าน้ำดื่มทั่วไปในตลาด กลายเป็นจุดขายสำคัญที่สร้างแรงดึงดูดทั้งในแง่ของฟังก์ชันและความรู้สึก

Charles House จัดจำหน่าย และทำตลาดภายใต้ บริษัท ดี ซูพรีม จำกัด (Dees Supreme) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท เป็นบริษัทลูกในเครือ DTGO ซึ่งอยู่ในอาณาจักรซีพี

Dees Supreme มีธุรกิจหลักพัฒนาสินค้าพรีเมี่ยมต่างๆ รวมถึงนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อนำมากระจายสินค้าในไทย มีธุรกิจขายส่ง ขายปลีก รวมถึงธุรกิจอื่นๆ นำเข้าอุปกรณ์ก่อสร้าง 

สำหรับ Charles House วางจุดยืนเป็นแบรนด์เครื่องดื่มน้องใหม่ ที่เริ่มต้นจากกลุ่ม Spirit (เหล้า) ได้แก่ Gin, Rum, Vodka, Whiskey มาจนถึงน้ำแร่แบรนด์ Charles House Flow ซึ่งน้ำแร่ผลิตโดยบริษัท นอร์ทอีส วอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

แม้จะมีการสื่อสารว่าเป็นน้ำจากแหล่งธรรมชาติ “พนมดงรัก” แต่จริง ๆ แล้ว Charles House Flow ผลิตโดยบริษัท นอร์ทอีส วอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จาก ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งรับผลิตแบบ OEM โดยเน้นแหล่งน้ำสะอาดในพื้นที่ใกล้แนวเทือกเขา และวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในแม็คโครเท่านั้น ด้วยรูปแบบขายยกแพ็ก 15 ขวด ราคา 61 บาท ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อขวดเพียง 4.06 บาท 

ราคาประหยัดแต่ภาพลักษณ์หรู

แม้ราคาขวดละ 4 บาท จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดวงกว้าง แต่ก็ตามมาด้วยความท้าทายเรื่องมาร์จิ้นต่ำ หากมีคู่แข่งเลียนแบบแพ็กเกจและลดราคาสู้ อาจนำไปสู่การแข่งขันต้นทุนที่ดุเดือด

อย่างไรก็ตาม ด้วยจุดขายด้านดีไซน์ กลยุทธ์วางโพสิชันชัดเจน การปูพรมในแม็คโคร และแผนขยายช่องทางออนไลน์ในอนาคต Charles House Flow จึงกลายเป็นกรณีศึกษาน่าสนใจของแบรนด์ Low-cost Premium Image ที่พลิกเกมตลาดน้ำดื่มได้อย่างน่าจับตา