Cocolove เปิดเกมรุกน้ำมะพร้าวพรีเมียมไทย ลุยตลาดสุขภาพ

'มะพร้าว' เป็นหนึ่งในสินค้าฮีโร่ของไทยมายาวนาน แม้ว่าในช่วงหลังการส่งออกมะพร้าวไทยไปตลาดโลกจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

 

โดยข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานว่า มะพร้าวสดหรือแห้ง ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลก 226.2 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 23.68 จากปีก่อนหน้า โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 37.2 ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก (607.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) แต่พบว่ามูลค่าการส่งออกมะพร้าวฯ ของโลก ขยายตัวร้อยละ 12.19 ชี้ให้เห็นสัญญาณว่าไทยต้องเร่งปรับตัวให้แข่งขันได้ 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่การส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า มะพร้าวไทยยังคงเติบโตได้ในตลาด เนื่องจากคุณภาพ ที่ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ แต่สิ่งที่กังวลมากสุด เป็นเรื่องของผลผลิตที่อาจจะน้อยลง จากผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

 

หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ Cocolove แบรนด์ไทยน้องใหม่ ที่เข้ามาสู่ตลาดน้ำมะพร้าวได้เพียง 2 ปี เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสในตลาด และเชื่อว่าไทยเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่ดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งยังเชื่อว่าสรรพคุณของน้ำมะพร้าวนั้นมีมากมายมหาศาล 

 

แบรนด์ที่เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ 

 

Cocolove เกิดขึ้นโดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อัจฉรา จันทร์ฉาย พร้อมด้วยลูกศิษย์เมื่อครั้งเคยสอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ คุณเบจญรัตน์ พ่อค้า , ดร.ณราทิพย์ อร่ามวัฒนานนท์ และอาชวิน โรจนชัยชนินทร มาก่อตั้งแบรนด์เพื่อผลิตน้ำมะพร้าวร่วมกัน ภายใต้ บริษัท ยูนิคอร์น คอนซูเมอร์ กรุ๊ป จำกัด 

 

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อัจฉรา จันทร์ฉาย ประธานกิตติมศักดิ์ของแบรนด์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีสวนมะพร้าวมากกว่า 1.6 ล้านไร่ และมีเกษตรกรกว่า 2 แสนครัวเรือน ถือเป็นผู้นำอันดับ 5-6 ของโลกที่มีแหล่งปลูกมะพร้าวขนาดใหญ่ 

 

“หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน น้ำมะพร้าวไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนเช่นทุกวันนี้ โดยมีไม่กี่แบรนด์ที่เป็นผู้นำในช่วงแรก ยุคแรกของตลาด คนยังดื่มแต่น้ำหวาน ชาเขียว น้ำผลไม้ปรุงแต่ง ซึ่งเรามองเห็นเทรนด์สุขภาพที่มาแรงต่อเนื่องในช่วง 3–4 ปีที่ผ่านมา และพบว่าน้ำมะพร้าวมีสรรพคุณมากมาย จึงเกิดไอเดียร่วมกับลูกศิษย์ผลิตน้ำมะพร้าวแท้ 100% ไม่มีน้ำตาลหรือสารเติมแต่ง เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในความเป็นธรรมชาติ” 

 

ประธานกิตติมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จุดเด่นของแบรนด์ เราวางตัวเป็นแบรนด์ที่ธรรมชาติ 100% ไม่ใส่สารอื่น ๆ โดยเน้นเป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพพรีเมี่ยม ซึ่งต้องบอกว่าบางแบรนด์ในตลาดมีความหวานสูงถึง 7-8 (บริกซ์) ซึ่งรสชาติอาจจะไม่เป็นธรรมชาตินัก

 

แต่ของ Cocolove กล้าเคลมว่า ‘น้ำมะพร้าวแท้ 100%’ ไม่มีอะไรปรุงแต่งเลย ผู้บริโภคจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่แท้จริง และยังผ่านกระบวนการ UHT (Ultra High Temperature) ซึ่งช่วยยืดอายุสินค้าให้เก็บได้นานถึง 15 เดือน โดยไม่ต้องแช่เย็น รสชาติยังใกล้เคียงของสดอยู่มาก แต่หากเปิดแล้ว แนะนำให้บริโภคภายใน 2-3 วัน เพื่อรักษาคุณภาพสูงสุด

 

เปิดตัว 2 ปีสร้างรากฐานตลาดในประเทศให้แข็งแรงก่อน

 

ด้าน อาชวิน โรจนชัยชนินทร กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวเสริมว่า Cocolove เปิดตัวได้ 2 ปี ซึ่งเป้าหมายที่วางไว้ คืออยากสร้างรากฐานให้แข็งแรงในประเทศก่อน ทำให้คนรู้จักแบรนด์ของเรา นั่นจึงเป็นที่มาที่เราทำการตลาดจริงจัง ตั้งแต่ปี 2023 โดยมีพรีเซ็นเตอร์คุณเบลล่า ราณี ซึ่งถือเป็นคนที่รักสุขภาพ 

 

สำหรับวัตถุดิบแบรนด์เลือกคัดสรรมะพร้าวคุณภาพดีจากแหล่งธรรมชาติอย่าง สมุทรสาคร, อัมพวา (ราชบุรี) และตราด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เรียกว่า 'น้ำกร่อย' บริเวณรอยต่อของน้ำจืดกับน้ำเค็ม ที่ทำให้ผลมะพร้าวหอมหวานเป็นพิเศษ และให้รสชาติใกล้เคียงกับการดื่มจากลูกสดมากที่สุด ซึ่งใช้มะพร้าวราว ๆ 10-20 ตันต่อเดือน โดยให้โรงงานพาร์ตเนอร์เป็นผู้ผลิต 
 

ยอดขายตลาดในประเทศ 75% 

 

อาชวิน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันยอดขาย 75% ของแบรนด์ มาจากตลาดในประเทศ ส่วนที่เหลือส่งออกไปยัง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และยุโรป ซึ่งแบรนด์วางตัวเป็นเครื่องดื่มสุขภาพ สำหรับกลุ่มคนเมืองที่ใส่ใจตัวเอง โดยตลาดในประเทศ พยายามจะเจาะกลุ่มคนทุกวัย โดยเฉพาะการทำแคมเปญร่วมกับนักศึกษา สถาบันการศึกษา

 

แม้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แต่ Cocolove เชื่อว่าตลาดสุขภาพยังมีโอกาส โดยเฉพาะในต่างประเทศที่ผู้บริโภคเปิดรับแบรนด์ไทยมากขึ้น เช่น ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใส่ใจสุขภาพอันดับต้นของโลก หรือกลุ่มประเทศในเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน ซึ่งแบรนด์มองว่า น่าจะเริ่มเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

เทรนด์สุขภาพดันน้ำมะพร้าวโต

 

อาชวิน ยังกล่าวอีกว่า จากข้อมูลในตลาดเครื่องดื่ม มีข้อมูลว่าตลาดน้ำผลไม้โตขึ้น 5–10% ต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมะพร้าวมีมูลค่าในประเทศรวมกว่า 1,200 ล้านบาทต่อปี และยังจะโตได้อีก ขณะที่ต่างประเทศคนทั่วโลกเริ่มหันมาดื่มเครื่องดื่มสุขภาพที่ใช้มะพร้าวแทนน้ำหวานแบบเดิม อย่างในยุโรปหรืออเมริกา เครื่องดื่มที่มี base จากมะพร้าวกำลังฮิตมาก 

 

แม้ Cocolove จะยังไม่ตั้งเป้ายอดขายหรือมาร์เก็ตแชร์ที่แน่นอน เพราะเพิ่งมีอายุเพียง 2 ปี แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าทิศทางที่มาถูกต้องแล้ว และต้องใช้เวลาเก็บข้อมูลเพื่อปรับกลยุทธ์ในระยะยาว

 

ในฝั่งการตลาด ยังมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ เพื่อทำวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะพฤติกรรมคนเมืองและสายรักสุขภาพ

 

ทั้งนี้แม้จะวางตัวเป็นสินค้า 'พรีเมียม' แต่น้ำมะพร้าวพร้อมดื่มแบรนด์นี้ กลับไม่ได้ตั้งราคาสูงลิ่ว

 

“คำว่าพรีเมียมสำหรับเรา ไม่ได้แปลว่าต้องแพงเสมอไป บางที่เราอาจต่างจากแบรนด์อื่นแค่ 1-2 บาทเท่านั้น ขึ้นอยู่กับช่องทางจำหน่าย” อาชวิน กล่าว

 

รุกตลาด B2B – เข้าโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่

 

ในอีกมุมหนึ่ง แบรนด์ยังขยายสู่ตลาด B2B ผ่านทีมงานเฉพาะกิจที่ดูแลกลุ่มโรงแรม คาเฟ่ สนามกอล์ฟ และร้านอาหาร

 

“ทางแบรนด์มีทีม HORECA โดยเฉพาะ คอยดูแลลูกค้าธุรกิจ การใช้น้ำมะพร้าวในร้านอาหาร คาเฟ่ มันไปได้อีกไกล เช่น ผสมชาเขียว กาแฟ หรือเป็น base สำหรับทำ mocktail cocktail ต่าง ๆ โดยที่ตอนนี้ B2B ยังมีสัดส่วนราว 5–10% ของรายได้รวม แต่เรามองว่ามีศักยภาพสูง และจะเป็นอีกหนึ่งขาความเติบโตของแบรนด์ในอนาคต”

 

วิจัยต่อยอด-เพิ่มไลน์สินค้าสำหรับอนาคต

 

แม้ตอนนี้จะโฟกัสที่น้ำมะพร้าวพร้อมดื่ม แต่ทีม R&D ก็กำลังพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือสูตรเฉพาะที่ยังคงคุณภาพ 100% โดยไม่แต่งเติม

 

“เรายึดหลักว่าไม่ว่าจะเป็นสูตรไหน ก็ต้องมาจากธรรมชาติ 100% อาจมีการปรับรูปแบบให้เหมาะกับผู้บริโภคหลากหลายกลุ่มในอนาคต โดยใช้ภาพลักษณ์ของ มะพร้าวไทย เป็นหัวหอกสำคัญ"

อาชวิน บอกอีกว่า มะพร้าวเป็น Soft Power ของไทยอยู่แล้ว เราแค่ทำให้แบรนด์ของเรามีคุณภาพพอที่ต่างประเทศจะยอมรับ ซึ่งตอนนี้กำลังวางแผน NPD (New Product Development) ตัวใหม่ที่ยังคงยึดแนวทางธรรมชาติ 100% เหมือนเดิม

 

แต่อย่างไรก็ตาม Cocolove ยอมรับว่า การจัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมยังเป็นความท้าทาย เนื่องจากราคาผลผลิตมะพร้าวผันผวน และต้องใช้การคัดสรรแหล่งวัตถุดิบอย่างละเอียด ขณะที่ในด้านราคาขายปลีกก็ไม่สามารถปรับขึ้นมากนัก เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ดุเดือด