ทุนจีน รุกสวนมะพร้าวไทย จากผู้ซื้อกลายเป็นเจ้าของกิจการเอง
ผู้ประกอบการเผย ทุนจีนรุกวงการมะพร้าวน้ำหอมไทย จากผู้ซื้อกลายเป็นผู้ขาย เช่าสวนปลูกเอง ตั้งโรงงานแข่ง-กดราคา
ผู้ประกอบการธุรกิจแปรรูปและจัดจำหน่ายมะพร้าวน้ำหอมรายหนึ่ง เปิดเผยกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า การทำตลาดในประเทศไทยช่วงหลังเริ่มยากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมะพร้าวน้ำหอมได้รับความนิยมสูง ซึ่งตลาดจีนเป็นตลาดหลักของไทย คนจีนมองเห็นโอกาสว่าเป็นสินค้าที่ขายดีในบ้านเขา จึงเข้ามาทำธุรกิจในไทย คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในวงการทุเรียน และวงการอื่น ๆ
จุดเริ่มต้นของทุนจีนนั้นมาจากการเป็น “ผู้ซื้อปลายทาง” จากจีน รับซื้อจากผู้ประกอบการไทยแล้วนำกลับไปขายในประเทศตัวเอง แต่เมื่อเห็นศักยภาพตลาด พวกเขาก็ค่อย ๆ ขยับบทบาทมาเป็นผู้ซื้อในประเทศไทยโดยตรง จากเดิมที่ไทยเป็นฝ่ายส่งออก กลับกลายเป็นว่าคนจีนตั้งระบบธุรกิจในไทยแข่งกับผู้ประกอบการท้องถิ่นเอง
“ช่วงหลังเขาไม่ซื้อจากเราแล้ว เพราะตั้งโรงงานผลิตเอง โดยเฉพาะในจังหวัดราชบุรีมีหลายรายมาก เขามีทุนเยอะ ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ขายถูก ทำให้ผู้ประกอบการไทยอยู่ยาก มีการเช่าที่ปลูกมะพร้าว สร้างโรงงานผลิตเอง มีรถขนส่งเอง ใช้คนของตนเอง และจำหน่ายเอง ส่วนใหญ่ส่งจีน บางส่วนขายประเทศอื่น ครบวงจรทุกขั้นตอน ยังมีข้อมูลว่าเลี่ยงภาษีอีกด้วย”
ผู้ประกอบการรายนี้ยังเปิดเผยว่า รูปแบบธุรกิจของทุนจีนมีความพร้อมสูง ดำเนินการรวดเร็ว เช่น ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ตั้งเป็นสำนักงานชั่วคราว ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเริ่มดำเนินกิจการได้ทันที และยังมีความยืดหยุ่น พร้อมจะย้ายออกได้ตลอดเวลา
ท้ายที่สุด ผู้ประกอบการรายนี้เตือนว่า หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม คนไทยจะลำบากแน่นอน
“จีนเข้าวงการไหน วงการนั้นอยู่ยาก เราพยายามปรับตัว ลดการพึ่งพาตลาดจีน หันไปขยายตลาดใหม่ในประเทศอื่น ๆ ให้มากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง”
สำหรับด้านราคาของมะพร้าว ผู้ประกอบการระบุว่า หากราคาหน้าสวนยังคงอยู่ที่หลักสิบ ไม่ถึง 20 บาท บางช่วงราคาสูงเนื่องจากผลผลิตต่ำ โดยมีปัจจัยมาจากด้านสภาพอากาศบ้าง ทำให้การผลิตไม่เพียงพอ สิ่งที่ผู้ประกอบการกังวลตอนนี้คือผลผลิตน้อย ส่วนการส่งออกมองว่ายังมีทิศทางที่ดี แม้ว่าสถานการณ์เรื่องภาษีไม่สู้ดีนัก แต่มองว่ายังไม่มีอะไรน่ากังวลมากนัก เพราะมองเป็นเกมการเมือง ไทยก็ต้องหาตลาดใหม่ ๆ โอกาสใหม่ ๆ
มูลค่ามะพร้าวไทยในตลาดโลก
จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ระบุว่า ปี 2567 มะพร้าวมีปริมาณการส่งออก 257,428 ตัน มูลค่า 217.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (7,616 ล้านบาท) ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน ยังคงเป็นตลาดหลัก ด้วยสัดส่วน 82.7% ของมูลค่าการส่งออกมะพร้าวอ่อนของไทย ตามด้วยสหรัฐฯ 7.1% ฮ่องกง 2.1% สิงคโปร์ 1.6% และเนเธอร์แลนด์ 1.5%
ส่วนมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวในประเทศไทยในตลาดรวม คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6.8% ต่อปี ระหว่างปี 2025–2031 โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการผลิตภัณฑ์จากพืชและสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมะพร้าว กะทิ มะพร้าวอบแห้ง และผลิตภัณฑ์จากเส้นใยมะพร้าว
ที่มามูลค่าตลาด : 6wresearch


