ปิดช่องโหว่ SME โตไม่สุด เร่งพัฒนาศักยภาพเชิงลึกเฉพาะราย

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าปลดล็อกปัญหา “SME โตไม่สมดุล” ที่สะท้อนผ่านโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ด้วยการเปิดตัวโครงการ INNOProductivity for SMEs ที่มุ่งผลักดันผู้ประกอบการรายย่อยให้เติบโตเป็น ธุรกิจขนาดกลาง (Medium Enterprises) อย่างมีคุณภาพ ผ่านการเสริมศักยภาพด้าน “นวัตกรรม” ควบคู่ “การเพิ่มผลิตภาพ” อย่างเป็นระบบ พร้อมผนึกกำลังกับ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (FTPI) และบริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRIS) เพื่อร่วมกันปิด “ช่องว่างการเติบโต” ของธุรกิจ SME ไทย

กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมี SME คิดเป็นกว่า 99% ของกิจการทั้งหมด แต่ในจำนวนนี้กลับมี “วิสาหกิจขนาดกลาง” เพียง 1.35% ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วที่มีอยู่ราว 5-10% นำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “Missing Middle” หรือการขาดชั้นธุรกิจที่สามารถสร้างนวัตกรรม จ้างงานคุณภาพ และขยายตลาดได้อย่างมั่นคง

โครงการ INNOProductivity for SMEs จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “ตัวเร่ง” ให้ SME ไทยที่มีศักยภาพ เติบโตเป็นธุรกิจระดับกลางอย่างมั่นคง ผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่

Coaching: ถ่ายทอดแนวคิดและเครื่องมือด้านนวัตกรรมและการบริหารผลิตภาพ

Assessing: ประเมินศักยภาพองค์กรในระดับรายบุคคล โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะอุตสาหกรรม

Consulting: วางแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ด้วยโมเดลนวัตกรรม 8 มิติ (IOM) ที่ออกแบบโดย NIA และแนวทางการประเมินของ FTPI

หัวใจของโครงการนี้ไม่ใช่แค่การให้ความรู้ แต่คือการ ลงลึกแบบรายธุรกิจ เพื่อสร้าง ‘แผนที่นำทาง’ ที่เหมาะกับแต่ละองค์กรจริง ๆ เพราะเราเชื่อว่า SME ไทยไม่ได้ขาดความสามารถ แต่ขาดระบบสนับสนุนที่เข้าถึงง่ายและตรงจุด

โครงการยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ผ่านทั้ง กิจกรรมเวิร์กช็อปลงพื้นที่ และ หลักสูตรออนไลน์ผ่าน NIA MOOC ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อรองรับการพัฒนาต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนเริ่มดำเนินการระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ค. 2568

ในยุคที่สภาพแวดล้อมธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว NIA เชื่อว่าการเติบโตของ SME ไทยจะไม่สามารถพึ่งพาโชคชะตา แต่ต้องอาศัยระบบที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ “รู้ทิศทาง รู้ศักยภาพ และรู้วิธีพัฒนา” โครงการ INNOProductivity for SMEs คือคำตอบของการก้าวจาก “เล็ก” ไปสู่ “กลาง” อย่างมั่นคง และยั่งยืน