posttoday

คนอินโดนีเซีย นิยมบินศัลยกรรมไทย เชื่อคุณภาพดีไม่แพ้เกาหลี

01 เมษายน 2568

ธุรกิจความงามไทยสุดฮอต! คนอินโดนีเซีย นิยมบินทำศัลยกรรม จมูก หน้าอก ดูดไขมัน ฯลฯ มองมาตรฐานสูง คุณภาพใกล้เคียงเกาหลี ราคาเป็นมิตร

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดศัลยกรรมและความงามของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2568 มูลค่าตลาดรวมจะสูงถึง 76,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.8% จากปีก่อนหน้า เติบโตจากกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นทั้งชาวไทยและต่างชาติ

 

โดยเฉพาะชาวไทย พบว่ากลุ่มลูกค้าเริ่มเด็กลง ขณะที่ตลาดต่างชาติพบอินโดนีเซียเป็นตลาดที่มาแรงอันดับ 1 เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศ CLMV ,จีน 

ปัจจุบัน อินโดนีเซียกลายเป็นตลาดหลักที่เดินทางเข้ามารับบริการศัลยกรรมในไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ 5 ข้อ

 

1.ในอินโดนีเซีย ยังไม่มีโรงพยาบาลศัลกรรมที่แพร่หลายมากนัก 

 

2.เดินทางสะดวก -ไทยอยู่ใกล้อินโดนีเซียกว่าประเทศอื่น ๆ ที่มีมาตรฐานศัลยกรรมสูง เช่น เกาหลีใต้

 

3.ราคาคุ้มค่า-ค่าบริการศัลยกรรมในไทยถูก

 

4.มาตรฐานระดับโลก – การศัลยกรรมไทยพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนสามารถแข่งขันกับประเทศแนวหน้าด้านศัลยกรรม หรือเรียกว่าคุณภาพเกือบใกล้เคียงเกาหลีใต้ 

 

นอกจากศัลยกรรมแล้ว โปรแกรมยกกระชับผิว อย่างโปรแกรมอัลเทอร่า (Ulthera) ซึ่งเป็นเครื่องมือยกกระชับอันดับ 1 ของโลก ก็ได้รับความนิยมสูงในไทย โดยในเอเชีย เกาหลีใต้เป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 รองจากอเมริกา ขณะที่ไทยครองอันดับ 3 แซงหน้าหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ที่มีประชากรจำนวนมาก 

 

5.อินฟลูเอนเซอร์มีอิทธิพลสูง – โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของชาวอินโดนีเซีย ทำให้การทำศัลยกรรมในไทยได้รับความนิยมมากขึ้น

 

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดความงามในอินโดนีเซีย มูลค่าอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ใช้จ่ายในไทยราว ๆ 500 ล้านบาท นิยมทำจมูก เสริมหน้าอก และดูดไขมัน ในคลินิก โรงพยายาลไทย 

 

เหตุผลชาวอินโดนีเซียบินศัลยกรรมไทย เพราะไม่เชื่อมั่นการแพทย์ในประเทศ 

 

สอดคล้องกับรายงานธุรกิจสุขภาพและความงามในอินโดนีเซียและโอกาสของไทย ของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปี 2567 ระบุว่า จากข้อมูลของ Kompas (2023) อินโดนีเซีย มีศัลยแพทย์ตกแต่งเพียงประมาณ 300 คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวอินโดนีเซีย 

 

ตลาดการดูแลสุขภาพในอินโดนีเซียต้องเผชิญกับความซับซ้อนจากกระแสท่องเที่ยว เชิงการแพทย์ที่มีจำนวนนักทองเที่ยวจากอินโดนีเซียมองหาการรักษาในต่างประเทศมากอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก การรับรู้ถึงข้อบกพร่องในบริการด้านการดูแลสุขภาพในท้องถิ่น 

 

แนวโน้มนี้ช่วยเสริมโอกาสสำหรับประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความก้าวหน้าทางโครงสรางพื้นฐานของการดูแลสุขภาพและความเชี่ยวชาญของทางการแพทย์ ด้วยเครือข่ายโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองจาก Joint Commission International (JCI) และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ประเทศไทยอยู่ ในตำแหนงที่ได้เปรียบที่จะขยายตลาดมายังอินโดนีเซีย 

 

โดยการนำหลักการปฏิบัติทางการแพทย์และมาตรฐานการดูแลคุณภาพระดับสูงมาสู่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งธุรกิจไทยจะสามารถเจาะตลาดผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียที่กำลังมองหาการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพโดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ

 

ข่าวล่าสุด

“วราวุธ” ไหว้อนุสาวรีย์นายบรรหาร ก่อนไปสมัคร ภท.พรุ่งนี้