เส้นทาง “คิวมินซี” ปั้นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสร้างยอดขาย 300 ล้านบาทต่อปี
เส้นทางกว่าจะเป็น “คิวมินซี” เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่สร้างยอดขาย 300 ล้านบาทต่อปี จากการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เห็นโอกาสตลาดสมุนไพรไทย สู่การปปุกปั้นแบรนด์ของตนเอง วาดภาพอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า อยากกระดับจาก SME เป็นบริษัทใหญ่
KEY
POINTS
- จากการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เห็นโอกาสตลาดสมุนไพรไทย สู่การปลุกปั้นแบรนด์ "คิวมินซี" เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
- โควิดคือจุดพีค ผู้คนวิ่งหาสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน เครื่องดื่มขมิ้นชัน-ขิง-กระชายขาวสะกัด ขายดี ผลิตเดือนละล้านขวด
- วาดภาพอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า อยากยกระดับจาก SME สู่บริษัทใหญ่
“การเป็นเอสเอ็มอี หน้าใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นช่วงแรกเริ่ม อะไรๆ ก็ยากไปหมด เครียดไม่มีแม้แต้เรี่ยวแรงจะอาบน้ำ”
ฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ (ท็อป) ประธานกรรมการ บริษัท เทรา ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด เปิดบทสนทนาถึงจุดเริ่มต้นธุรกิจเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “คิวมินซี(QminC)”
เขาเล่าว่า เมื่อ 6-7 ปีก่อนเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในตลาดประเทศไทยยังมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะพบเห็นสินค้า อาหารเพื่อสุขภาพ แต่ด้วยมองเห็นโอกาสว่าเทรนด์รักสุขภาพในประเทศไทยมาแน่ ๆ ด้วยความเป็นคนรักสุขภาพอยู่แล้ว เขาจึงเกิดไอเดีย อยากเริ่มต้นลงมือธุรกิจของเขาเอง ตั้งเป้าพัฒนาเครื่องดื่มที่เป็น Natural Functional Drink หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มาจากธรรมชาติ
จุดแรกเริ่มธุรกิจเกิดจากท่องเที่ยวรอบโลก
ฐานธิษณ์ เล่าให้ฟังถึงเหตุผลที่เขาหันมาทำธุรกิจ ปั้นแบรนด์คิวมินซีว่า ก่อนหน้านี้เขามีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลก ทั้งโซนยุโรป เอเชีย ระหว่างที่เขากำลังท่องเที่ยวอยู่นั้นได้ลองกิน-ดื่มอะไรที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา จนได้พบกับเครื่องดื่มที่ทำจากขมิ้นชัน ซึ่งในโซนยุโรป เขานิยมกันมาก
จึงได้ทำการศึกษาข้อมูล และพบว่า ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งยังระบุว่าสารเคอร์คิวมินในขมิ้นชันมีส่วนช่วยดูแลตับ ขับสารพิษ แก้แฮงค์ ซึ่งมีประโยชน์มากมาย
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อไปไหนก็มักจะพบเห็นเครื่องดื่มจากขมิ้นชันมีขายอยู่แทบทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่มินิมาร์ท ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านกาแฟ ไปจนถึงร้านหนังสือ
ในขณะที่ในประเทศไทย ไม่ค่อยเห็น เพราะหากนึกถึงขมิ้นชัน ส่วนใหญ่จะถูกเก็บในครัวเป็นสมุนไพรเอาไว้ใช้ปรุงอาหาร หรือเอาไว้ขัดผิว
ผมกลับมาก็ใช้เวลาในการคิด สำรวจตลาด พัฒนาสูตรอยู่ราว ๆ 2 ปี ก่อนก่อตั้งแบรนด์คิวมินซี ในปี 2018 และตั้งโรงงานเมื่อปี 2019 บนพื้นที่ 15 ไร่ ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา ลงทุนเครื่องจักร และดูระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวม ๆ แล้วก็ใช้เงินกว่า 70 ล้านบาท
เริ่มแรกมักจะยากเสมอ
ฐานธิษณ์ เล่าต่อว่า ตัวเขานั้นเริ่มต้นใหม่หมดเลย ตั้งแต่วางกลยุทธ์ Business model สรรหาวัตถุดิบต่าง ๆ ฟอร์มทีม R&D ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ยากมาก พอเป็นเอสเอ็มอี เริ่มทำใหม่จึงเป็นไปได้ยากเพราะเราไม่มีตลาด และไม่สามารถทำสินค้าที่เป็นที่ต้องการคนส่วนใหญ่ (Mass) ขายในราคาถูกได้ แนวคิดหลัก ๆ คือ "ถ้าจะทำ ต้องทำให้เป็นพรีเมี่ยมไปเลย ซึ่งหมายความว่า คุณภาพดี สินค้าดี เพราะช่วงนั้นกระแสคนรักสุขภาพกำลังค่อย ๆ มา
จนผมก่อตั้งแบรนด์คิวมินซี (QMINC) ขึ้นมา ซึ่ง Q คือ Quality คุณภาพของเครื่องดื่ม, M คือ Mind การคิด การกลั่นกรองต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ ส่วนผสม, I คือ Innovation นวัตดรรม, N คือ Natural ธรรมชาติ และ C คือ Caring for Consumer ความห่วงใยในสุขภาพของผู้บริโภค
โดยเครื่องดื่มที่ผลิต เน้นเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โดยตัวแรกที่ออกมาเป็น “เครื่องดื่มขมิ้นชันสกัดผสมเลมอน” โดยได้นำเข้านวัตกรรมจากญี่ปุ่นมาสกัดสารในขมิ้นชันให้มีอนุภาคเล็กลงในระดับนาโน ทำให้ร่างกายดูดซึมสารได้ดียิ่งขึ้นกว่าขมิ้นชันที่ทำเป็นผงทั่วไป และมีไลโปโซม (Liposome) มาช่วยเคลือบทำให้กลบกลิ่นของขมิ้นชันให้หมดไป ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สามารถวางขายในร้านเซเว่นฯ ได้สำเร็จเมื่อปี 2020 ด้วย
ผมตั้งเป้าเอาไว้แต่แรกเลยว่าจะต้องวางขายในเซเว่นฯ ให้ได้ เพราะเชื่อว่าเป็นช่องทางที่น่าจะช่วยกระจายสินค้าเราได้ ตอนนั้นเซเว่นฯมีแค่ 12,000 กว่าสาขา ตอนนี้มากกว่า 15,000 สาขาแล้ว
ตอนที่ผมไปนำเสนอสินค้าเพื่อวางจำหน่าย ส่วนใหญ่ถ้าสินค้าบรรจุภัณฑ์เป็นขวดแก้ว เขาไม่รับ เพราะเวลาขนส่งเสี่ยงแตกเสียหาย สุดท้ายก็เลยหาวิธีป้องกันเรื่องขนส่งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และได้วางขายในเซเว่นฯ ก่อน
โควิดคือจุดพีค ผลิตเดือนละ1-2 ล้านขวด
หลังจากสินค้าวางจำหน่าย ถือเป็นช่วงพีคของคิวมินซีก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่โควิดแพร่ระบาดอย่างหนัก ผู้คนต้องการดูแลสุขภาพมากขึ้น จึงหาตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และลดการอักเสบ เครื่องดื่มที่เป็นวิตามินซี หรือเพื่อสุขภาพ แต่ละแบรนด์ได้รับการตอบรับอย่างดี แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ คิวมินซี ที่ขายดิบขายดีจนต้องผลิตเฉลี่ย 1 ล้านขวดต่อเดือน จากนั้นก็เลยได้ออกสินค้าตัวใหม่เป็นเครื่องดื่มขิงสกัด กระชายขาวสกัดตามมา
ซึ่งตอนนั้นยอดขายพีคสุด โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก ยอดขาย 8 แสน - 1 ล้านขวดต่อเดือน จนเข้าสู่ปีที่ 2 พุ่งสู่ 2 ล้านขวดต่อเดือน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท แต่หลังจบช่วงโควิดยอดขายลดลงมาประมาณ 30% กลับสู่ภาวะปกติ
ตลาดต่างประเทศมีโอกาสโต
ฐานธิษณ์ กล่าวต่อว่า รายได้ส่วนใหญ่ 95% ยังเป็นยอดขายจากในประเทศ ขณะที่อีก 5% เป็นยอดขายต่างประเทศ ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาได้มีการขยายตลาดไปแล้วกว่า 10 ประเทศ ครอบคลุมทั้งโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป โดยเฉพาะตะวันออกกลาง คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาบูดาบี กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
ผลตอบรับต่างประเทศอย่างแถบตะวันออกกลางช่วงแรก ๆ ขายได้เดือนละ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ตอนนี้ขยับมาเป็นเดือนละ 2 ตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ซึ่งใน 1 ตู้คอนเทนเนอร์มีประมาณ 2 พันกว่าลัง คาดว่าจะเติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มสูตรขมิ้นชันสกัด เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อสูง
ทั้งนี้ ตลาดที่มองว่ายังมีความยากคือจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนมีการตรวจสอบสินค้าที่เข้มข้นขึ้น จึงอาจจะยังยากอยู่
ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว-บริหารงานแบบเชื่อมั่นตั้งใจ
จากความสำเร็จที่กล่าวมาเบื้องต้นนับว่าเป็นความพยายามของ ฐานธิษณ์ พร้อมด้วยพนักงานกว่า 55 ชีวิต ที่มีส่วนในการผลักดันให้คิวมินซี เป็นที่รู้จักและเติบโตได้ดีในตลาด
“พนักงานทั้ง 55 คน อยู่กันแบบครอบครัว พี่น้อง ผมไม่ได้มีสูตรสำเร็จอะไรในการบริหารงาน เพราะคนน้อย อาศัยความเชื่อมั่น ตั้งใจ เรามีทีม R&D ในการช่วยพัฒนาสูตร พยายามเรียนรู้เทรนด์ในตลาด
ดังนั้นภาพลักษณ์แบรนด์ต้องคุณภาพดี อร่อย เพราะการเลือกกินหรือดื่มมันสำคัญมากเลย หลักการต้องอร่อย ต่อให้คุณบอกว่าสินค้าคุณวิเศษขนาดไหน ถ้าไม่อร่อย คนก็ไม่กลืนกิน อย่างมะระคุณสมบัติดีมาก แต่รสชาดมันขม นั่นคือที่มาที่ไปว่าทำไมเราถึงต้องทำสินค้าคุณภาพดีแล้วอร่อยด้วย
ธุรกิจเล็ก ต้องอึดและถึกทน
ฐานธิษณ์ กล่าวอีกว่า การทำธุรกิจ หลัก ๆ ผมว่าต้องอึด และถึกทนให้ได้ แน่นอนพอเราทำอะไรใหม่ๆ มันยากไปทุกอย่าง แม้แต่วิธีคิดว่าจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ แต่พอกระบวนการทำมันยาก มันเครียด ผมมองว่าหลัก ๆ ถ้าเราได้เริ่มทำอะไรแล้ว อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่าย ๆ ลองอดทน และแก้ไปทีละจุด อย่าเพิ่งยอมแพ้
หลายคนคงมีไอเดีย และเริ่มลองทำไปบ้างแล้ว แต่อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่าย ๆ หาทางแก้ไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีเทคโนโลยี มีเอไอ มันช่วยเราเรื่องข้อมูลได้ง่ายมาก สมมติเตาในโรงงานพัง แทนที่ผมจะไปถามวิศวกร ผมลองถามเอไอก่อนเลยว่าเกิดปัญหาอะไร จะแก้ไขได้อย่างไร มันช่วยได้เยอะมาก มันลิสต์ปัญหาให้ได้เยอะมาก
ต่างประเทศ มีนวัตกรรมสุดยอดมาก ด้วยการทำน้ำผลไม้ทุกตัวด้วยการเอาสีออก คุณภาพเหมือนเดิม น้ำผลไม้เจอความร้อน สีเฝดออก คุณภาพ สารอาหารครบ แค่เอาสีออก ความเจ๋งของเทคโนโลยีมันไปไกลแล้วเราต้องเรียนรู้ ผมคิดว่าไทยเรามีงานวิจัยเยอะมากในหน่วยงานต่าง ๆ มหาวิทยาลัยต่าง ๆ สามารถร่วมมือกับ SME ได้เยอะเลย
สุดท้ายแล้ว ฐานธิษณ์ มองว่า การเริ่มธุรกิจในรูปแบบนีชมาร์เก็ต (Niche Market) จะดีกว่า เพราะเราไม่สามารถทำสินค้าราคาถูกได้แล้ว เพราะวัตถุดิบมันแพงหมด อย่างกาแฟ เมล็ดกาแฟราคาขึ้นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว มัทฉะเริ่มขาดแคลน สินค้าที่เป็นผลไม้ราคาขึ้น ๆ ลง ๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผมอยู่ในแวดวงเกษตรมากว่า 15 ปี ไม่เคยคาดเดาราคาสินค้าได้เลยว่าจะขึ้นหรือลง
แต่ถ้ามองในตลาดสินค้าสุขภาพคิดว่ายังไปได้เรื่อย ๆ แต่ถ้าจะให้เจาะจงว่าสินค้าตัวไหนมาแรง ก็ยังยากเพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะกินวีแกน บางคนอาจจะปรับสมดุลย์ได้บริโภคอาหารดีๆ เน้นโปรตีน ออกกำลังกาย เพราะฉะนั้นคิดว่าก็คงเป็นที่ต้องการไปเรื่อยๆ ส่วนคิวมินซี ก็ยังคง พัฒนาสินค้า ต้องดูเทรนด์วัตถุดิบ
เป้าต่อไป ดูเทรนด์วัตถุดิบ
ล่าสุดได้พัฒนาเป็นสูตร “สมูทตี้ โพรไบโอติก” สายพันธุ์ Bacillus Coagulans GBI-30 มีงานวิจัยรองรับ ช่วยเสริมภูมิต้านทาน ดีต่อระบบลำไส้ โดยคิวมินซีสมูทตี้โพรไบโอติก แอปเปิ้ลออร์แกนิควีทกราส, คิวมินซีสมูทตี้โพรไบโอติก สตรอเบอร์รี่บีทรูท, คิวมินซี น้ำส้มสายน้ำผึ้ง 100% มีกากใยอาหารหรือไฟเบอร์ ช่วยให้ลำไส้แข็งแรงท้องไม่ผูก
ซึ่งนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ 60% เนื่องจากบางตัวไม่มีในไทย และใช้ของเกษตรกรไทย 40% จากหลากหลายแหล่ง จริง ๆ ผมเห็นโอกาสหลายอย่างสำหรับเกษตรกรบ้านเรา เพราะวันนี้ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพโตขึ้น ทำให้มีดีมานด์ของสินค้าเกษตรได้มากขึ้น
และอนาคตจะมีอะไรที่อาจจะเหนือกว่า โพรไบโอติก หรือมีอะไรที่ใหม่กว่าผู้บริโภค และรู้สึกว้าว ดาราดื่ม เราก็ต้องหา มอนิเตอร์ตลาดว่ามีอะไรใหม่ๆ หรือวัตถุดิบเดิมที่มีอยู่แล้ว แต่ถูกพัฒนาในรูปแบบใหม่มากขึ้น คาดว่าในอนาคตจะมีโปรดักต์ใหม่อย่าง “อะโวคาโดอัลมอนด์” และจะมีกลุ่ม “เครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น (Refreshment)” แต่อย่างไรก็ตาม จะยังคงความเป็นเครื่องดื่มและความเป็นธรรมชาติอยู่


